ผบ.ตร.มั่นใจออกหมายจับลุงพล คดีน้องชมพู่ทำตามหลักฐาน

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้รับมอบตัว นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหา คดีการเสียชีวิตของด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหารแล้ว การทำคดีนี้ตำรวจได้ขอหมายศาลไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฎและมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี จากนี้จะส่งตัวไปที่สน.ปทุมวัน เพื่อลงบันทึกประจำวัน ก่อนคุมตัวไปที่สภ.กกตูม ท้องที่เกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีเวลาคุมตัวผู้ต้องหา48 ชม. หากมีความจำเป็นต้องควบคุมผู้ต้องหาต่อก็ต้องขออำนาจศาลฝากขัง ซึ่งผู้ต้องหาก็มีสิทธิขอประกันตัวได้

"เราทำตามพยานหลักฐาน ไม่ได้ทำคดีให้ใครพอใจ หรือไม่พอใจ ณ วันนี้ ออกหมายจับมาได้1คน ตำรวจทำงานมาตลอดไม่ได้ทิ้งไปไหน" พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า คดีน้องชมพู่ถ้าเทียบการแข่งขันฟุตบอลโลกเท่ากับเข้ารอบสุดท้ายแล้ว อย่างไรก็ตามในคดีฆาตกรรมตราบใดที่ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เคยรับปากไว้แล้วว่าจะทำให้ดีที่สุดก็ทำตามที่รับปากแต่ยังไมยังไม่จบเพียงเท่านี้

ส่วนที่ทนายความบอกว่ามั่นใจในคดีก็เป็นเรื่องของเขา เจ้าหน้าที่มั่นใจในการทำงานของเราคนอื่นจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา เราทำใจตามพยานหลักฐาน คดีนี้ตอนนี้สามารถออกหมายจับได้ 1 คนถ้ามีพยานหลักฐานมากกว่ามากกว่านี้ก็ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่พบ ส่วนเรื่องการหาพยานหลักฐานเรานี้ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์ เเละนิติวิทยาศาสตร์ และศาสตร์ใหม่ๆทุกด้านที่เรามีมาวิเคราะห์ ส่วนที่มีคนบอกว่าจับผู้ต้องหาช่วงนี้เพื่อกลบข่าวอภิปรายงบในสภาต้องไปถามคนพูดเองว่าทำไมคิดเเบบนั้น

ทั้งนี้ อยากฝากสังคมไว้ว่า เป็นบทเรียนว่า คดีนี้คือคดีฆาตกรรม เหมือนกับคดีเกาะเต่า แต่ต่างกันคือการไต่สวนบนโลกโซเชียลซึ่งครั้งนี้หนักกว่า มีคนติดตามเสพติดมากแสดงว่าสังคมไทยยังมีภูมิคุ้มกันไม่พอ เกิดปรากฎการณ์ประหลาดๆ ทั้งการไต่สวนตั้งข้อหา ลากยาวไปถึงขั้นไสยศาสตร์ เสพเรื่องพวกนี้ให้ใช้วิจารญาณ ถ้าให้ดีหยุดตามเรื่องนี้สักสองอาทิตย์ สุขภาพจะดีขึ้น

ต่อมาที่ สน.ปทุมวัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน และตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้จับกุมนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล หลังพยายามเข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อลงบันทึกการจับกุม และแจ้งข้อกล่าวหา  โดยมีนางสมพร หลาบโพธิ์ "ป้าแต๋น" และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เข้าร่วมสอบปากคำด้วย

ขณะที่เดินทางมาที่ สน.ปทุมวัน  นายไชย์พล  เดินทางมาด้วยรถยนต์กระบะสีดำ  เจ้าตัวนั่งอยู่บริเวณแคบด้านหลัง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งประกบข้าง  เมื่อลงมาจากรถยนต์นายไชย์พล มีสีหน้าแววตาที่เรียบเฉย แต่งกายด้วยเสื้อคอกลมสีขาว กางเกงขายาวสีเข้ม  ที่ข้อมือถูกสวมกุญแจมือโดยเจ้าหน้าที่ได้นำผ้าสีน้ำเงินมาพันปกปิดไว้  จากนั้นลุงพลได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวขึ้นไปห้องสอบสวนทันทีโดยไม่อนุญาติให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปรวมสังเกตการณ์ด้วย   ส่วนนางสมพร หลาบโพธิ์ "ป้าแต๋น"  วันนี้ได้เดินทางติดตามลุงพล พร้อมหอบเอกสารสำคัญขึ้นไปที่ห้องสอบสวน โดยไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ  ทางด้านทนายษิทรา ก็ยังไม่ขอให้รายละเอียดๆใดๆ รอลงบัททึกประจำวันเสร็จจะออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

ต่อมาเวลา 13.20 น. ตำรวจได้ควบคุมตัวนายไชย์พล ขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจ ท่าแร้ง กลับไปยังสภ.กกตูม จ.มุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป