posttoday

"นพ.ยง"ขอคนไทยฉีดวัคซีนโควิด ชี้ความเสี่ยงกับประโยชน์ที่ได้ห่างเป็นพันเท่า!

04 พฤษภาคม 2564

"ศ.นพ.ยง"ย้ำวัคซีนป้องกันโควิดช่วยลดการระบาด ชี้ความเสี่ยงกับประโยชน์ที่ได้ห่างกันเป็นพันเท่า ระบุการแพ้วัคซีนที่เห็นเป็นข่าว ส่วนใหญ่เป็นอาการเพียงชั่วคราว

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 64 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้นำคลิปวิดีโอ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กล่าวถึงเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษและการฉีดวัคซีนมาเผยแพร่ก่อนการแถลงสถานการณ์ประจำวัน

ศ.นพ.ยงกล่าวว่า ถ้ามองย้อนไปที่การระบาดปีที่แล้ว สายพันธุ์ของการระบาดปีที่แล้วเป็นสายพันธุ์ที่มาจากอู่ฮั่น จนกระทั่งระบาดที่สมุทรสาครเป็นสายพันธุ์ที่มาจากเมียนมา ซึ่งสายพันธุ์นั้นก็เหมือนกับสายพันธุ์ทั่วๆไปที่ระบาดอยู่ทั่วโลก

แต่มาการระบาดครั้งใหม่ในปลายเดือนมี.ค.ต่อเนื่องเดือนเม.ย.64 สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์นี้ได้รับมาจากกัมพูชา ปริมาณไวรัสในลำคอของผู้ป่วยจะมีเป็นจำนวนมาก แล้วไวรัสนี้ยังติดต่อง่ายกว่าไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 1.7 เท่า

ผู้ป่วยของไทยในวันนี้ยอดสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการระบาดมา และในวันนี้เราจะเห็นว่ามีการสูญเสียชีวิตค่อนข้างมากถ้าเปรียบเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา หรือถ้าพูดเฉลี่ยง่ายๆก็คือ 1%ของผู้ป่วย

เพราะฉะนั้นการป้องกันที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าทุกคนใส่หน้ากากอนามัยมันก็จะลดการแพร่กระจายและผู้ที่อยู่ใกล้ชิดก็มีโอกาสจะรับเชื้อได้น้อยลง การกำหนดระยะห่างสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิง หรือที่ๆมีระบบปรับอากาศแบบปิด โอกาสที่จะติดเชื้อในสถานที่เหล่านี้ง่ายกว่า

เชื้อโควิดถ้าเราไปสัมผัสแล้วมือเรามาถูกใบหน้าและดวงตาเชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องคอยหมั่นล้างมือ

สิ่งที่สำคัญอีกอันหนึ่งที่จะมาช่วยเราได้เร็วขึ้นในการลดการระบาด คือ การให้วัคซีน

การฉีดวัคซีนถามว่ามีความเสี่ยงไหม มีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงนี้ถ้าเปรียบเทียบกับผลประโยชน์ที่ได้ การที่เป็นโควิดแล้วมีโอกาสเสียชีวิตอย่างน้อย1% กับการฉีดวัคซีนแล้วโอกาสที่จะเกิดอันตรายจากวัคซีนอาจเป็น 1 ในหลายๆแสนถึง 1 ในล้าน ความเสี่ยงกับประโยชน์ที่ได้ห่างกันเป็นพันเท่า

แต่การแพ้วัคซีนที่เห็นเป็นข่าว ส่วนใหญ่เป็นอาการเพียงชั่วคราว เราจะเห็นว่าในประเทศไทย ยังไม่มีผู้ใดที่เสียชีวิตที่เกิดจากวัคซีน

ผมเคยเปรียบเทียบเสมอเลยว่า ความเสี่ยงในการข้ามถนนของผม อาจจะมากกว่าความเสี่ยงจากการฉีดวัคซีนด้วยซ้ำ เราจึงกำหนดให้ทุกคน ขอให้มาฉีดวัคซีน และการฉีดวัคซีนเราก็มีมาตรการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นอยู่แล้วโดยการให้ฉีดที่โรงพยาบาล