posttoday

ศปถ.สรุปอุบัติเหตุสงกรานต์วันที่2ประสานจังหวัดเข้มเส้นทางรอง

12 เมษายน 2564

สงกรานต์สุขใจวัน2 ศปถ.ประสานจังหวัดคุมเข้มดูแลเส้นทางสายรอง ถนนในจังหวัด อบต. หมู่บ้าน กวดขันลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อวันที่ 12 เม.ย.64 เวลา 10.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เมษายน 2564 เกิดอุบัติเหตุ 357 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 30 ราย ผู้บาดเจ็บ 374 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ (10 - 11 เม.ย. 64) เกิดอุบัติเหตุรวม 705 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 56 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 729 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 40 จังหวัด ซึ่งรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ขณะที่ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเป็นกลุ่มที่มีการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ประสานจังหวัดคุมเข้มปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนบนเส้นทางสายรอง เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ถนน อบต.และหมู่บ้าน ปรับแผนการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ และด่านชุมชนให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุ โดยเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจความพร้อมทั้งคนและรถ โดยเฉพาะผู้ใช้รถจักยานยนต์ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ และตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป การคาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัย อีกทั้งร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ด้วยการรด ริน พรมน้ำ และไม่สาดน้ำใส่กัน เพื่อให้ทุกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความปลอดภัยและห่างไกลจากโควิด – 19 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2564 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นวันสองของการรณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” เกิดอุบัติเหตุ 357 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 30 ราย ผู้บาดเจ็บ 374 คน

ศปถ.สรุปอุบัติเหตุสงกรานต์วันที่2ประสานจังหวัดเข้มเส้นทางรอง

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.45 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 24.37 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 87.12 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 58.26 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 39.94 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 41.18 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 26.89 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 31.93 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,916 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 59,518 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 330,653 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 61,702 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 15,661 ราย ไม่มีใบขับขี่ 17,025 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช ร้อยเอ็ด (จังหวัดละ 16 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ตรัง สมุทรปราการ (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (20 คน) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ (10 – 11 เม.ย. 64) เกิดอุบัติเหตุรวม 705 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 56 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 729 คน

จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 40 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช (27 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ (จังหวัดละ 4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี (จังหวัดละ 31 คน)

ศปถ.สรุปอุบัติเหตุสงกรานต์วันที่2ประสานจังหวัดเข้มเส้นทางรอง

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ปภ.) เปิดเผยว่า แม้วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงจุดหมายแล้ว แต่ยังคงมีการใช้รถใช้ถนนบนเส้นทางสายรอง เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ถนน อบต.และหมู่บ้าน รวมถึงอยู่ในช่วงของการสังสรรค์และเฉลิมฉลอง ศปถ. จึงได้ประสานจังหวัดคุมเข้มปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนบนเส้นทางสายรอง เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ถนน อบต.และหมู่บ้าน โดยปรับแผนการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ และด่านชุมชนให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุ พร้อมเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจความพร้อมทั้งคนและรถ โดยเฉพาะผู้ใช้รถจักยานยนต์ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ และตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป การคาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐาน เพื่อลดอัตราการบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิต ท้ายนี้ ขอฝากเตือนประชาชนคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญเมื่อใช้รถใช้ถนน อีกทั้งร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ด้วยการรด ริน พรมน้ำ และไม่สาดน้ำใส่กัน เพื่อให้ทุกการเดินทาง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความปลอดภัยและห่างไกลจากโควิด – 19