กองปราบเผยเส้นทางการเงินหลงจู๊สมชายโยงตำรวจภาค2

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการจับกุมนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ หลงจู๊ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีจ้างวานฆ่า และนายธนา จุติกิติ์เดชา อายุ 26 ปี ลูกชาย ตามหมายจับคดีจัดให้มีการเล่นพนัน พร้อมพวกรวม 8 คน ว่า ในส่วนของขั้นตอนการดำเนินการวันนี้ทางพนักงานสอบสวนยังคงเร่งดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด ที่จำเป็นต้องมีการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด ซึ่งอาจใช้เวลาในวันนี้เกือบทั้งวัน เพื่อตรวจสอบว่ามีประเด็นใดขาดเหลือหรือไม่ ก่อนจะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาในเวลา 09.00 น. วันพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดเบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธ ซึ่งในส่วนของรายละเอียดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนหลังจากนี้จะมีการขยายผลเอาผิดกับบุคคลอื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ หากพบหลักฐานมีความเชื่อมโยงไปถึงก็จำเป็นต้องดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคดีจ้างวานฆ่า หรือ คดีบ่อนพนัน ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะเส้นทางการเงินต่างๆ แต่เนื่องด้วยเป็นคดีที่มีความละเอียดอ่อนจึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความรอบครอบ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานเป็นสำคัญ ลำพังเพียงแค่กระแสข่าวลือพาดพิงบุคคลต่างๆที่ผ่านมานั้นยังไม่เพียงพอต่อการดำเนินคดี

แหล่งข่าวระบุว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบนำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมตัว นายสมชาย ที่บ้านเลขที่ 158/28 ถนนราษฎร์บำรุงต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น ได้ตรวจสอบพบแผ่นกระดาษเอกสารสำคัญฉบับหนึ่งภายในรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด หมายเลขทะเบียน 9 กอ 1788 กทม. ที่จอดอยู่ในบ้านพักของนายสมชาย ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติของ นายตำรวจยศ พ.ต.ท. ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ บก.น.2 โดยมีเนื้อหาภาพรวมในลักษณะเอกสารแนะนำตัวหรือรายงานตัว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดหนังสือดังกล่าวมาทำการตรวจสอบถึงที่ไปที่มา

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบข้อมูลเครื่องโทรศัพท์ส่วนตัวของ นายสมชายและบุคคลใกล้ชิด ยังพบไฟล์คลิปเสียงการสนทนาพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจบ่อนพนันกับบุคคลต่างๆ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงในพื้นที่ภูธรภาค 2 หลายนาย ที่ถูกแอบบันทึกเก็บไว้โดยลูกน้องของนายสมชาย เพื่อเก็บไว้ใช้แบล็คเมล์ในภายหลังนอกจากนี้จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายสมชาย และ บุคคลใกล้ชิดรอบตัว พบมีเงินที่มาจากธุรกิจบ่อนพนันหมุนเวียนในบัญชีรวมประมาณ 15,000 ล้านบาท ทั้งยังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับนายตำรวจพื้นที่ภูธรภาค 2 จำนวนหลายนาย โดยมี นายตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งระดับผู้กำกับการจำนวน 2 นาย ที่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงกันโดยตรงผ่านบัญชีธนาคารส่วนตัว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการดำเนินคดี นายสมชายเบื้องต้นมีการดำเนินคดีด้วยกันทั้งหมด 4 คดี ประกอบด้วย คดีจ้างวานฆ่า 1 คดี และ คดีบ่อนอาร์เจ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง 1 คดี และคดีบ่อนหลังร้านนำชัย คดีบ่อนอรุโณทัย ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีกอย่างละ 1 คดี ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้น นายสมชาย ยังคงยืนกรานปฏิเสธ และไม่ขอให้รายละเอียดใดๆในชั้นสอบสวนแต่อย่างใด