รู้ตัวมือเผาพระบรมฉายาลักษณ์หน้าเรือนจำคลองเปรมแล้ว จ่อเอาผิด3ข้อหาหนัก

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 64 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการตามตัวผู้ก่อเหตุวางเพลิง เผาป้าย ทำลายทรัพย์สินหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ว่า หลังจากประชุมร่วมกับผู้บริหารกรมราชทัณฑ์และพ.ต.อ.ภานุเดช สุขวงศ์ รองผบ.ก.น.2 ว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเมื่อเวลา 03.10น.ของวันที่ 28 ก.พ. 64 พบบุคคลต้องสงสัย 3 ราย เป็นชาย 2 คน และหญิง 1คน และพบอุปกรณ์ในการเตรียมเพื่อตั้งใจมาเผา พบถังน้ำมันและไฟแช็คทิ้งเอาไว้

จากนั้นกรมราชทัณฑ์จึงได้ประสานไปยัง สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น ได้ติดตามจากกล้องวงจรปิด พบรถ MPV สีขาว เป็นรถเพียงคันเดียวในเวลาดังกล่าว และจากการติดตามกล้องวงจรปิดที่รถยนต์ดังกล่าวขับไปจนถึงที่พัก ทำให้ทราบพิกัดที่พักของผู้ต้องหาและตัวบุคคลที่ก่อเหตุแล้ว

"ขณะนี้ทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอยู่ระหว่างพิสูจน์หลักฐานให้ชัดเจนรวมถึงเช็คข้อมูลมือถือเพื่อค้นหาเบอร์โทรว่าผู้ลงมือนั้นติดต่อกับใครบ้าง โดยตำรวจยืนยันจะทำคดีให้จบโดยเร็วที่สุดและคาดว่าจะใช้ไม่เกิน 7 วัน ซึ่งบุคคลผู้ต้องสงสัยทั้งหมดพบว่ามีความเชื่อมโยงทางการเมือง"นายสมศักดิ์กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับสน.ประชาชื่นแล้ว 3 ข้อหา คือ 1.วางเพลิงเผาทรัพย์ 2.บุกรุกสถานที่ราชการ และ 3. มาตรา 112 เพราะเป็นการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขออนุมัติหมายศาลเพื่อออกหมายจับ

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุตนได้สั่งการกรมราชทัณฑ์สำรวจกล้องวงจรปิดหน้าเรือนจำทุกแห่งให้ใช้งานได้ ห้ามไม่ให้เสียหรือชำรุด เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ

รายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า มีกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุเผาทำลายทรัพย์เป็นชาย 2 ราย และหญิง 1 ราย โดยผู้หญิงทำหน้าที่ถ่ายภาพเพื่อเผยแพร่ลงโซเชียลหลังก่อเหตุ

ส่วนจากการตรวจสอบเลขทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวพบว่า มีชื่อแม่ของนักร้องที่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มแกนนำราษฎรมีชื่อเป็นผู้ครอบครอง