posttoday

เล็งนำแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถขสมก.162สายให้ครม.เห็นชอบ

28 กุมภาพันธ์ 2564

คจร.เห็นชอบแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถขสมก.162 เส้นทางรองรับการขยายตัวของเมืองและเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นในอนาคต คมนมคมเตรียมเสนอครม.พิจารณา

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า แผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หรือ แผนปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ จำนวน 162 เส้นทางนั้น กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาพร้อมแผนฟื้นฟู ขสมก. นอกจากแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถฯ แล้ว มติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 1/2564 ได้เพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาค่าโดยสาร 30 บาท/วัน และให้คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ชเป็นผู้รับผิดชอบพิจารณากำหนดราคาค่าโดยสารให้เหมาะสมกับทุกกลุ่ม เนื่องจากมีความเห็นเกี่ยวกับผู้มีรายได้น้อยซึ่งเคยเสียค่าโดยสารน้อยกว่า 30 บาท

ทั้งนี้ เบื้องต้น กำหนดตั๋วเที่ยวเดียว ราคา 15 บาท คิดราคาบนพื้นฐานอัตราค่าโดยสารรถประจำทางปรับอากาศตามระยะทางในปัจจุบันที่ประกาศใช้เมื่อปี พ.ศ.2561 โดยราคาค่าโดยสารขั้นต่ำสุดสำหรับรถปรับอากาศ (ใหม่) ระยะทาง 0-4 กม. ราคา 15 บาท โดยมีการเน้นย้ำว่าต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานการคิดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรมแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผย “แผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.” ซึ่งมีการปรับแผนจากการซื้อรถเมล์ใหม่ จำนวน 2,511 คัน เปลี่ยนเป็นการจัดเช่ารถโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าแทน และเมื่อรวมเข้ากับรถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) อีก 489 คัน จะมีรถเมล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวม 3,000 คัน และในจำนวนนี้จะมีการจ้างเอกชนบริหารจัดการเดินรถราว 1,500 คัน เพื่อวิ่งในเส้นทางเดินรถที่มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางตามที่กรมการขนส่งทางบกแบ่งใหม่ เป็นของ ขสมก. 108 เส้นทาง และของเอกชนอีก 54 เส้นทาง รวมระยะเวลา 7 ปี ซึ่งจะเป็นการจ่ายค่าจ้างตามกิโลเมตรที่วิ่งให้บริการจริง ในอัตราที่ ขสมก. กำหนดไว้เบื้องต้นคือ 34.27 บาทต่อกิโลเมตร โดยเอกชนจะต้องนำรถโดยสารใหม่ที่เป็นระบบรถไฟฟ้า ติดตั้งระบบ E-Ticket, GPS, WiFi ออกวิ่งเฉลี่ย 240 กิโลเมตรต่อคันต่อวัน

ด้าน นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ กล่าวถึงความคืบหน้าว่าแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ว่า ขณะนี้ไม่ได้ติดอยู่ที่สภาพัฒน์ฯกระทรวงคมนาคมไม่จำเป็นต้องนำแผนฟื้นฟูฯ มาให้สภาพัฒน์ฯพิจารณาก่อนเสนอที่ประชุมครม. แต่สิ่งที่กระทรวงคมนาคมต้องเสนอให้สภาพัฒน์ฯพิจารณา คือ แผนการลงทุนในการจัดหารถโดยสารประจำทางใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในแผนฟื้นฟูฯ ถือเป็นกระบวนการปกติของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจหากต้องจัดซื้อจัดจ้างต้องส่งมาให้สภาพัฒน์ฯพิจารณาด้วย

“แผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ถ้าผ่าน ครม.เมื่อไหร่ ก็จะได้เห็นกันแน่ๆ คือ ประชาชนได้ใช้รถเมล์ใหม่ระบบพลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเอกชนที่เช่าวิ่งตามระยะทางจะต้องบำรุงรักษาเองไม่เป็นภาระของขสมก.ในการซ่อมบำรุง พร้อมๆ กับ แผนปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ ลดการวิ่งในเส้นทางที่ซ้ำซ้อน และท้ายสุดคือค่าบริการแบบเหมาจ่าย 30 บาทตลอดวัน ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และตั๋วแบบเที่ยวเดียวราคา 15 บาท"นายดนุชากล่าว