posttoday

จำคุก"ดีเจมะตูม" เลี้ยงฉลองวันเกิดแพร่โควิด-19

19 กุมภาพันธ์ 2564

ศาลแขวงพระนครใต้ พิพากษาจำคุก "ดีเจมะตูม" 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท ละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จัดเลี้ยงฉลองวันเกิดแพร่โควิด-19 รับสารภาพลดโทษจำคุก ให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี

เมื่อวันที่ 19 กพ.64 ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถ.เจริญกรุง พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 4 ได้ยื่นฟ้องด้วยวาจา นายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม อายุ 31 ปี ความผิดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 4,5,7,9,18,19 และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 25 มี.ค.63, ประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาญาจักร, ประกาศเรื่องการให้ข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ลงวันที่ 28 เม.ย.63, ข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 15 ) ลงวันที่ 25 ธ.ค.63 ข้อ1 และ ข้อ 3

โดยพฤติการณ์สรุปา เมื่อระหว่างวันที่ 9 ม.ค.64 เวลากลางคืน ถึงวันที่ 10 ม.ค.64 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน ซึ่งอยู่ในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรและประกาศดังกล่าวยังมีผลใช้บังคับอยู่ จำเลยกับพวก 34 คนซึ่งบางคนหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันกินเลี้ยงฉลองวันเกิดของจำเลย ที่บริเวณห้องพักโรงแรมบันยันทรี ถ.สาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. อันเป็นการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมากถึง 34 คน ในห้องพักซึ่งเป็นห้องที่ปิดมิดชิด ทั้งยังมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งทำให้การควบคุมสติลดลง จนไม่มีการรักษาระยะห่างระหว่างกัน และไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย อันเป็นการร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในสถานที่แออัดในเขตพื้นที่ที่ได้มีการประกาศกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ต่อมาวันที่ 19 ก.พ. จำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ

อย่างไรก็ตาม จำเลยกระทำโดยรู้สำนึกในการกระทำ แต่ขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวมในการป้องกันและควบคุมมิให้โรคระบาดแพร่ออกไปในวงกว้างซึ่งหลังจากงานเลี้ยงวันเกิดของจำเลยมีผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งสิ้น 9 คนรวมทั้งตัวจำเลยด้วย แต่คณะผู้สอบสวนโรค สำนักอนามัย ไม่ได้เปิดเผยชื่อผู้ติดเชื้อทั้งหมด เนื่องจากเป็นความลับตามกฏหมาย จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนักเพื่อให้เข็ดหลาบ ในชั้นสอบสวนจำเลยให้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ขณะที่ชั้นพิจารณา ศาลได้สอบถามเรื่องทนายความแล้ว จำเลยไม่มีและไม่ต้องการทนายความ จึงอ่านอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 มาตรา 9,18 ประกอบมาตรา 83 จำคุก 2 เดือนและปรับ 20,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือนและปรับ 10,000 บาท แต่ไม่ปรากฎว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี พร้อมให้คุมความประพฤติจำเลยโดยมารายตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้งในกำหนด 1 ปี และห้ามไม่ให้จำเลยร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรม หรือมั่วสุมในสถานที่แออัดในลักษณะเช่นเดียวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ ภายในกำหนด 3 เดือน ส่วนค่าปรับหากจำเลยไม่ชำระให้จัดการ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.29,30