posttoday

น้องสท.ดำร้องกองปราบรับโอนคดีสางปมพี่ชายตาย ตำรวจท้องที่ทำสำนวนเบาหวิว

19 กุมภาพันธ์ 2564

น้อง ส.ท.ดำ โร่ร้องกองปราบรับโอนคดีสางปมตายพี่ชาย เหตุไม่ไว้ใจตำรวจท้องที่แจ้งข้อหาเบาหวิงเร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องเร็วเกินเหตุ

เมื่อวันที่ 19 ก.พ.64 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.มนต์ณัฐ ยิ้มเเย้ม อายุ 49 ปี น้องสาวของนายดำรงค์ ยิ้มแย้ม หรือ “ส.ท.ดำ” อดีตผู้สมัคร สมาชิก อบจ.ปทุมธานี ลูกทีม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ บิ๊กแจ๊ด นายก อบจ.ปทุมธานี เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.เฟื่องฤทธิ์ ศรีนวล รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมหลังนายดำรงค์ พี่ชายถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เเต่ตำรวจสภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี เจ้าของคดีกลับเเจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุเพียงแค่ “ทำร้ายร่างกาย” จึงเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร

น.ส.มนต์ณัฐ กล่าวว่า วันนี้ตนนำหลักฐานเป็นใบชันสูตรศพจากโรงพยาบาลตำรวจที่ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของนายดำรงค์ พี่ชาย ซึ่งมีการระบุว่า เสียชีวิตจากอาการสมองบวม เลือดออกในโพรงอากาศของกะโหลกศีรษะของหน้าผากทั้ง2ข้างจำนวนมาก สันนิษฐานเกิดจากการได้รับการกระแทกจากแข็งไม่มีคม ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลพวงจากเหตุการณ์ที่นายดำรงค์ ถูกนายวันชัย อาดำ หรือบังอีฟ อายุ 42 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสวนพริกไทย และ นายวิศรุต หมุดโต หรือกิ๊ป อายุ 24 ปี รุมทำร้าย เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ ได้มีอาการปวดหัวและอาเจียนตลอดเวลา กระทั่งวันที่ 22 ม.ค. อาการรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นหมดสติ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 24 ม.ค. โดยขณะนั้นแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า ปอดอักเสบ ทำให้ญาติติดใจจนต้องนำศพชันสูตรซ้ำที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติและโรงพยาบาลตำรวจจนผลออกมาตรงกันตามขั้นต้น

น.ส.มนต์ณัฐ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันหลังนายดำรงเสียชีวิต นายวันชัย และ นายวิศรุต สองผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับทางตำรวจ สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี แต่ทางพนักงานสอบสวนกลับแจ้งเพียงข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น” ก่อนรีบทำสำนวนส่งฟ้องอัยการทันที โดยไม่บอกรายละเอียดคดีใดๆกับพวกตนที่เป็นญาติผู้เสียหายเลย จึงตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการที่เร่งรีบเกินความจำเป็น ประกอบข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น” ที่พนักงานสอบสวนแจ้งเอาผิดผู้ก่อเหตุทั้งสอง ก็เป็นเพียงข้อหาที่มีโทษสถานเบา เพียงแค่ปรับเท่านั้น จึงเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร อยากขอให้ทางกองปราบช่วยรับโอนคดีดังกล่าวมาอยู่ในความรับผิดชอบ เพราะเกรงว่าจะมีผู้มีอิทธิพลเข้ายุ่งเกี่ยวกับกระบวนการกฎหมายจนตำรวจท้องที่ไม่กล้าดำเนินการ

เบื้องต้นตำรวจกองปราบปรามรวบรวมหลักฐาน สอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอนพิจารณาต่อไป