posttoday

กทม.จับมือสตช.เปิดป้ายอัจฉริยะแจ้งเตือนคนกรุงรู้ทันฝุ่นPM2.5

03 กุมภาพันธ์ 2564

กรุงเทพมหานครจังมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังฝุ่น PM2.5 ผ่านป้ายจราจรอัจฉริยะ 70 จุด ครอบคลุม 50 เขต

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ได้สนับสนุนพื้นที่บนป้ายจราจรอัจฉริยะและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยจะเผยแพร่ข้อมูลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร จำนวน 70 จุด ครอบคลุม 50 เขต วันละ 3 เวลา ดังนี้ ช่วงเช้า เวลา 06.00-08.00 น. ช่วงเที่ยง เวลา 11.00-13.00 น และช่วงเย็น เวลา 17.00-19.00 น. โดยข้อมูลจะหมุนเวียนสลับกันทุก ๆ 15 วินาที ตลอด 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้การสนับสนุนพื้นที่บนป้ายจราจรอัจฉริยะในความรับผิดชอบของ สตช. มีจำนวนทั้งสิ้น 90 ป้าย ครอบคลุมพื้นที่ 20 เขตชั้นในของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ คลองเตย จตุจักร ดินแดง ดุสิต บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางกะปิ บางพลัด บางรัก บึงกุ่ม ปทุมวัน ป้อมปราบศัตรูพ่าย พญาไท พระโขนง ภาษีเจริญ ราชเทวี วังทองหลาง วัฒนา สาทร และห้วยขวาง

กทม.จับมือสตช.เปิดป้ายอัจฉริยะแจ้งเตือนคนกรุงรู้ทันฝุ่นPM2.5

รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลา 1-2 ปี ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครประสบปัญหาฝุ่นละอองที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว  เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งส่งผลต่อสภาพอากาศ ทำให้มีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ  ซึ่งช่วงเช้าหากเกิดสภาวะลมอ่อนหรือลมสงบ หรือเกิดการผกผันกลับของอุณหภูมิ (inversion)  นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวมีฝนน้อย ทำให้ระดับฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานครสูงขึ้นบางครั้งอาจถึงระดับที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน

อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครจึงจำเป็นต้องแจ้งเตือนและเน้นย้ำข้อควรปฏิบัติในการเฝ้าระวังสุขภาพและป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5 โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ผ่านกลไกและช่องทางการสื่อสารต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูล รวมถึงให้ประชาชนวางแผนการทำงาน ดำเนินกิจกรรมในแต่ละวันโดยเฉพาะในพื้นที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งควรลดระยะเวลาหรืองดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นควรจะต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ด้วยทุกครั้ง