ศบค.เปิดข้อมูลระบาดรอบใหม่ พบวัย20-29ปีติดเชื้อมากสุด
ศบค.เผยข้อมูลโควิดระบาดรอบใหม่ พบวัย 20-29 ปี ติดเชื้อมากสุด แต่ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ และมีการเดินทางไปหลายสถานที่ทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่ม
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวระหว่างการแถลงข่าวสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ประจำวันว่า สถานการณ์การระบาดรอบใหม่ในประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 15 ธ.ค.63 - 25 ม.ค.64 ในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 8,935 ราย
โดยผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มอายุระหว่าง 20-29 ปีมากสุดที่ 1,813 ราย คิดเป็น 58% รองลงมา คือ กลุ่มอายุระหว่าง 40-59 ปี ที่ 1,650 ราย คิดเป็น 29% ซึ่งสองกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยทำงาน และส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ จึงไม่รู้ตัวว่าป่วย ทำให้มีการเดินทางไปยังหลายสถานที่ และส่งผลให้มีการระบาดในกลุ่มวัยนี้มากที่สุด
นอกจากนี้จากข้อมูลพบว่าผู้ป่วยรายที่อายุน้อยสุด อยู่ที่ 3 เดือน และมากสุดที่ 95 ปี ขณะที่การระบาดในเพศชายต่อเพศหญิง มีอัตราส่วนใกล้เคียงกันที่ 1:1.36 ขณะที่มีบุคลาการทางการแพทย์หรือทำงานในสถานพยาบาล ติดเชื้อโควิดแล้ว 25 ราย
"โรคนี้ จะอยู่กับกลุ่มคนที่มีการเดินทาง หรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนเยอะ วัยของการเที่ยว ดื่ม สังสรรค์ หรือวัยทำงาน ยังเจอเยอะ ซึ่งเชื้อโรคจะอยู่กับกลุ่มนี้ แต่โชคดีที่กลุ่มนี้แข็งแรง จึงไม่แสดงอาการ แต่พอไม่มีอาการ ก็จะไม่รู้ว่าตัวเองป่วย และเดินทางไปหลายที่ จึงทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น"นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ทำการรวบรวมสถิติข้อมูลการระบาดของไวรัสโควิดที่เริ่มตั้งแต่เจอผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศจีนเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.62 จนถึงปัจจุบัน พบว่าการแพร่ระบาดในระยะหลัง เริ่มกระจายตัวได้อย่างรวดเร็วมากกว่าในช่วงต้นที่มีการระบาด
ซึ่งจากข้อมูลจะพบว่า ช่วงการระบาดใน 1 ล้านรายแรก ใช้เวลา 92 วัน การระบาดใน 10 ล้านแรก ใช้เวลา 177 วัน การระบาดใน 50 ล้านรายแรก ใช้เวลา 311 วัน
ในขณะที่การระบาดใน 50 ล้านรายที่สอง กลับลดลงเหลือเพียง 80 วัน ซึ่งในช่วงหลังๆ จะเห็นว่ายอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทุก 10 ล้านคน จะใช้เวลาเพียง 16 วันเท่านั้น