posttoday

ดีเอสไอจับเครือข่ายค้ามนุษย์ลวงสาวไทยค้ากามดูไบ

23 มกราคม 2564

ดีเอสไอจับ3ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์ ลวง6สาวไทยค้ากามดูไบ เหยื่อถูกเจ้าของร้านชาวจีนยึดพาสปอร์ตส่งขายซ่องในกรุงอาบูดาบี

พ.ต.ท สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ดีเอสไอได้เข้าจับกุม 3 ผู้ต้องหาชาวไทย ตามหมายจับศาลอาญา โดยจับผู้ต้องหารายแรกได้ที่จังหวัดชลบุรีและอีก 2 รายในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งหมดเป็นเครือข่ายนายหน้าในขบวนการจัดหาหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณีที่นครดูใบ สหระฐอาหรับอิเมเรตส์ โดยคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษสืบเนื่องจากมูลนิธิพิทักษ์สตรีและ 6 หญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการดังกล่าวได้ขอให้ช่วยจับกุมผู้ต้องหา

"คดีนี้ พนักงานสอบสวนกองคดีค้ามนุษย์ได้สืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ามีกลุ่มนายหน้าชาวไทยได้ชักชวนหญิงไทยไปทำงานนวด โดยอ้างว่ารายได้ดี ไม่มีการบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า.เมื่อทั้งหมดเดินทางไปถึง ได้ถูกเจ้าของร้านชาวจีนยึดหนังสือเดินทางของทุกคนไว้ และได้พาไปทำงานที่ร้านนวด (แอบแฝง) แห่งหนึ่ง และบางรายถูกส่งนำไปทำงานที่ซ่องโสเภณี ในกรุงอาบูดาบี มีการบีบบังคับให้ต้องมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า หากไม่ยินยอมก็จะไม่มีรายได้ที่จะนำมาใช้หนี้ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นเงินจำนวนประมาณ 62,700 บาท"รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว

พ.ต.ท สุภัทธ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเหยื่อให้การว่า ก่อนเดินทางไปทำงานที่ประเทศดังกล่าวจะมีนายหน้าชาวไทย นำสัญญาเงินกู้ให้ลงลายมือชื่อ เพื่อรับสภาพหนี้ ในสัญญาระบุว่า หากไม่ชำระหนี้เงินกู้จะถูกดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ต่อมาเหยื่อได้หลบหนีออกจากสถานค้าบริการ และได้เข้าขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยที่กรุงอาบูดาบี เพื่อส่งกลับไทย ทั้งนี้ดีเอสไอได้แจ้งข้อหาฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และได้ส่งตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลอาญาแล้ว จึงขอเตือนหญิงสาวให้ระมัดระวังหากมีผู้ชักชวนไปทำงานนวดที่ ประเทศเกาหลี ประเทศมาเลเซีย หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศบาห์เรน.