เปิดตำนาน"เจ๊ณี"เจ้าแม่ค้าสัตว์ป่ารายใหญ่ภาคเหนือ ตำรวจปทส.บุกจับแล้ว

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.64 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. สั่งการให้ ห้ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. นำกำลังเข้าจับกุมตัว นางปราณี บุญมาคำ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ 4 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมของกลาง ซากเก้ง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง 2 ตัว ถูกชำแหละเตรียมส่งขาย ทั้งหมด 18 ชิ้น หนัก 36 กิโลกรัม จับกุมได้ที่บ้านพักใน ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

พ.ต.อ.ศานุวงษ์ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า นางปราณี หรือในวงการซื้อขายเนื้อสัตว์ป่าเรียกว่า 'เจ๊ณี' มีพฤติกรรมลักลอบค้าสัตว์ป่าในพื้นที่แม่ฮ่องสอนมานานหลายสิบปี แต่ยังไม่เคยถูกจับกุม โดยจะขายปลาเพื่อบังหน้าในตลาด แต่เบื้องหลังนั้นค้าสัตว์ป่า จึงได้วางแผนเพื่อล่อซื้อเนื้อเก้ง ทั้งนี้เมื่อตกลงซื้อขายกันแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปที่บ้านของ 'เจ๊ณี' เผื่อรับสินค้าก่อนที่จะแสดงตัวเข้าจับกุม และ เข้าตรวจค้นภายในบ้านจนสามารถยึดของกลางดังกล่าวได้ทั้งหมด

พ.ต.อ.ศานุวงษ์ กล่าวอีกว่า เจ๊ณี ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองพื้นที่ในเขตอำเภอแม่สะเรียง โดยจะรับซื้อเนื้อสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ จากพรานพื้นเมืองในทาง จ.ตาก หรือพื้นที่อื่น ๆ ส่วน อีเก้ง หรือ เก้ง หรือ ฟาน เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 198

"ผู้ต้องหารายนี้เขาอยู่ในพื้นที่มานาน เล็ดลอดการจับกุมของเจ้าหน้าที่โดยตลอด ทางตำรวจปทส.ได้เฝ้าจับตาดูพฤติกรรมก่อนที่จะเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการขยายผลไปยังร้านอาหาร พ่อค้ารายย่อยอื่น ๆ ที่อยู่ในขบวนการนี้" พ.ต.อ.ศานุวงษ์ กล่าว

สอบสวน นางปราณี ให้การรับสารภาพว่า รับซื้อเนื้อเก้งมาจากชาวบ้านชื่อว่า พะโด่ อยู่ที่หมู่บ้านแม่ตะวอ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ซื้อมาในราคากิโลกรัมละ 330 - 350 บาท ก่อนที่จะนำมาขายต่อในกิโลกรัมล่ะ 400 บาท และไม่ได้มีใบอนุญาตค้าและครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองแต่อย่างใด

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ได้แจ้งข้อกล่าวหา ครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เก้ง) โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าตาฝั่ง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป