posttoday

ศาลพิพากษาจำคุกไทย-เทศรวมตัวร้านดังสุขุมวิทไร้มาตรการป้องกันโควิด

16 มกราคม 2564

ศาลแขวงพระนครใต้ จำคุกถ้วนทั้งคนไทย-ต่างชาติ กว่า 80 คน ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ - พ.ร.บ.คนเข้าเมือง รวมตัวรัาน TAJ CAFE สุขุมวิท ไร้มาตรการป้องโควิด รับสารภาพ ให้ลดโทษ-รอลงอาญาไว้

ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถ.เจริญกรุง 72 วันที่ 16 ม.ค.64 พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง ได้ยื่นฟ้องคดีด้วยวาจา คนไทยและต่างด้าว เป็นจำเลย หลายสำนวน

โดยส่วนแรก คดียื่นฟ้อง น.ส.ศศิมา บัวจันทร์ กับพวกรวม 42 คน กระทำผิดตาม พ.ร.บ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กรณีเมื่อคืนวันที่ 15 - 16 ม.ค.64 ซึ่งอยู่ในช่วงตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ภายในร้านอาหารชื่อ TAJ CAFE ซ.สุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือเขตวัฒนา กทม. มีการเปิดเพลงดนตรีประกอบการเต้นรำ โดยโต๊ะรับประทานอาหารจัดตั้งโดยไม่มีระยะห่างเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ และมีการให้ลูกค้าสูบและดูดบารากู่ ซึ่งภายในร้านดังกล่าวมีลูกค้าทั้งคนไทยและคนต่างด้าวอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากโดยไม่มีการควบคุมให้สวมหน้ากากอนามัย ไม่มีการป้องกันใดๆ ตามมาตรการป้องกันโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด (COVID 19) ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยทั้ง 42 คน มีความผิดตาม พ.ร.บ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 , 18 ให้จำคุกจำเลยคนละ 2 เดือนและปรับคนละ 10,000 บาท จำเลยทั้ง 42 คนให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลย คนละ 1 เดือนและปรับคนละ 5,000 บาท โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 42 คนเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ดังนั้นโทษจำคุกคดีนี้ จึงให้รอการลงโทษ (รอลงอาญา) ไว้มีกำหนดคนละ 1 ปี

ส่วนที่ 2 ได้ยื่นฟ้องต่างด้าวหลายสัญชาติ อาทิ ไนจีเรีย อินเดีย โซมาเลีย เมียนมา ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ประกอบด้วย สำนวนยื่นฟ้อง นายคริสเตียน บูเช่ โอเคชูคู (Mr.Christian Akabueze Okechku) และ นาย "ออยเยบิซี อีเซดินูวู" (Mr.Onyebuchi Ezedinugeu) ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 , พ.ร.บ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงพิพากษาว่า นายคริสเตียน จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 81

ส่วนนาย "ออยเยบิซี" จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 11 , 18 วรรคสอง , 62 วรรคสอง , 81 และทั้งสองมีความผิด พ.ร.บ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย ให้จำคุกนายคริสเตียน จำเลยที่ 1 มีกำหนด 6 เดือนและปรับ 20,000 บาท ส่วนนาย "ออยเยบิซี" จำเลยที่ 2 มีจำคุกมีกำหนด 1 ปี 6 เดือนและปรับ 30,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 3 เดือนและปรับ 10,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 จำคุกมีกำหนด 9 เดือนและปรับ 16,000 บาท โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกในคดีนี้จึงให้รอลงอาญาไว้มีกำหนดคนละ 2 ปี

สำนวนที่ยื่นฟ้อง นายอาวิส อาเม็ด (Mr.Awais Ahmed) กับพวกรวม 18 คน ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหาเช่นกัน ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยที่ 1,2,3,4,6-18 มีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และจำเลยที่ 18 มีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 มาตรา 8 , 101 วรรคหนึ่งด้วย รวมจำคุกจำเลยที่ 1,2,3,4,6-18 คนละ 8 เดือนและปรับคนละ 20,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 5 ให้ลงโทษปรับ 10,000 บาท ทั้งนี้จำเลยทั้ง 18 คนให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1,2,3,4,6-18 คนละ 4 เดือน และปรับคนละ 13,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 5 ปรับ 5,000 บาท โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 18 คนเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ดังนั้นโทษจำคุกในคดีนี้จึงให้รอลงอาญาไว้กำหนดคนละ 1 ปี

และสำนวนที่ยื่นฟ้อง นายโอบินน่า อีคเพห์ ซอนบอสโค่ (Mr.Obinna Expeh Sonbosco) กับพวก รวม 20 คน ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงพิพากษาว่า จำเลยที่ 1-14 มีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฯ มาตรา 11 , 18 วรรคสอง , 62 วรรคหนึ่ง , 81 และพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฯ รวมจำคุกจำเลยที่ 1 - 14 คนละ 10 เดือน และปรับคนละ 26,000 บาท จำเลย ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 1-14 คนละ 5 เดือนและปรับคนละ 13,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 15-20 จำคุกคนละ 1 เดือนและปรับคนละ 5,000 บาท โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 20 คนได้รับโทษจำคุกมาก่อน ดังนั้นโทษจำคุกในคดีนี้จึงให้รอลงอาญาไว้คนละ 2 ปี