posttoday

ร้านขายยาทั่วไปไม่ขาย! ป.ป.ส.หาต้นตอผู้นำเข้า"ไดอาซิแพม"ใช้ผสม"เคนมผง"

14 มกราคม 2564

ประสานอย.-ศุลกากรสอบรายชื่อบริษัท-ใบสำแดงนำเข้ายา”ไดอาซิแพม”บริสุทธิ์ หลังผลตรวจฯชี้ใช้ผสม”เคนมผง” ป.ป.ส.เผยร้านขายยาทั่วไปไม่ขาย คาดลักลอบนำเข้าผ่านพัสดุภัณฑ์ต่างปท.-รั่วไหลบริษัทผลิตยา

เมื่อวันที่ 14ม.ค.64 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส) เปิดเผยความคืบหน้าในการตรวจสอบหาสารเสพติด” เคนมผง “ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้เสพ 7 ราย หลังสถาบันตรวจพิสูจน์ยาเสพติดได้รับของกลางมาตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.มักกะสันจำนวน 3 คดี และสน.อื่นๆอีก 3 คดี ผลการตรวจวิเคราะห์หาส่วนผสมของตัวยาพบว่ามีไดอาซีแพม (Diazepam) หรือ แวเลียม (Valium) บริสุทธิ์เป็นสารตั้งต้น ซึ่งไม่ได้ผสมอยู่ในเม็ดยาแวเลี่ยม ซึ่งตามปกติไดอะซีแพมที่ผสมอยู่ในแวเลี่ยม 1 เม็ดจะมีปริมาณ 2 มิลลิกรัมหรือ 5 มิลลิกรัม แต่ที่ตรวจพบเป็นแวเลียมบริสุทธิ์ 90 เปอร์เซ็นต์ไม่มีการผสมตัวยาอื่น และไม่พบว่ามีการจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป

อย่างไรก็ตามจากการสอบถามไปยังองค์การอาหารและยา(อย.) ทราบว่า ไดอาซิแพมต้องขออนุญาตนำเข้า ดังนั้นป.ป.ส.จึงทำหนังสือไปยังอย.เพื่อขอข้อมูลในการตรวจสอบรายชื่อบริษัทผู้นำเข้าตัวยาดังกล่าวว่า มีบริษัทใดบ้างที่สั่งซื้อยาไออาซีแพม พร้อมทั้งแจ้งไปยังกรมศุลกากรเพื่อให้ตรวจสอบบริษัทยาอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ใบสำแดงการนำเข้ายาเป็นอย่างไร บางครั้งมีการสำแดงว่าเป็นดรัก แต่สิ่งของที่บรรจุเข้ามาอาจเป็นอย่างอื่นได้ และขอให้ทั้ง 2 หน่วยงานแจ้งข้อมูลกลับมายังป.ป.ส.เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนในการขอความร่วมมือในการตรวจสอบเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเคนมผง

นายวิชัย กล่าวว่า คดีเสพเคนมผงทั้ง 6 คดีที่ป.ป.ส.ทำการตรวจวิเคราะห์พบว่าเคตามีนมีทั้งชนิดที่เป็นผงและเกล็ด เป็นเคตามีน และเคตามีนผสมไดอาซีแพมบริสุทธิ์ กรณีนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ที่มีการลักลอบนำไดอาซีแพมชนิดผงบริสุทธิ์ 90 เปอร์ เซ็นต์เข้ามา เนื่องจากไม่มีจำหน่ายโดยทั่วไป และเชื่อว่าไม่มีนำยาเสพติดไปผสมกันเพื่อสร้างมูลค่าในการค้าปลีกให้กลุ่มผู้เสพรายย่อน เพราะยาเสพติดแต่ละตัวมีราคาสูงเกือบใกล้เคียงกัน หากนำไปผสมก็ไม่คุ้ม

สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มผู้เสพเคนมผง ยังไม่ทราบว่า มีลักษณะการเสพอย่าง เป็นการทยอยเสพยาแต่ละตัวหรือผสมตัวยาหลายชนิดปนกันแล้วเสพครั้งเดียว ต้องรอผลตรวจจากนิติวิทยาศาสตร์ให้ชัดเจนก่อนว่า เมื่อสูดเข้าไปแล้วเหลือสารตกค้างที่กระเพาะหรือไม่

“ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการนำตัวยา 3 ชนิดไปผสมกันแล้วเสพ มีเพียงหลักฐานจากผู้ขายนำยาเคตามีนผสมกับไดอาซีแพม และเสพไดอาซีแพมบริสุทธิ์เท่านั้น แนวทางสืบสวนเบื้องต้น พบว่า อาจมีการลักลอบนำเข้าไดอะซีแพมจากต่างประเทศโดยการส่งผ่านพัสดุภัณฑ์ในจำนวนไม่มากนัก หรืออาจจะมีซื้อขายผ่านโซเชียล และมีการรั่วไหลจากบริษัทที่ผลิตยา ซึ่งขณะนี้ป.ป.ส.กำลังตรวจสอบ ส่วนยาผสมตัวใหม่ที่ขื่อว่า “ทะเลทราย “ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สุทธิสาร ได้หลักฐานซื้อขาย ระหว่างผู้เสพ และผู้ขายนั้น อาจจะเป็นชื่อที่นักเสพตั้งกันเอง ป.ป.ส.ยังไม่พบของกลาง หากตำรวจนำของกลางมาก็ พร้อมตรวจสอบให้ ในส่วนของป.ป.ส.ก็ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามสืบสวนขยายผลแหล่งที่มา วิเคราะห์หาส่วนผสมของตัวยาแล้ว”เลขาธิการฯป.ป.ส.กล่าว