กองปราบจับ18มงกุฎปลอมเฟซบุ๊กรตท.หญิงลวงเหยื่อโอนเงิน

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ กองปราบปรามพล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.รัฐวิรุฬห์ จันทสุบรรณ สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุม น.ส.ชญาดา หรือ นางกัญญ์ณณัฎฐ์ เพชรฤาชารัตน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 6 ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 804/2563 ลงวันที่ 28 ต.ค.63 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น” หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 94/2563 ลงวันที่ 18 มิ.ย.63 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์, ไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ” หมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.6/2564 ลงวันที่ 6 ม.ค.64 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 200/2563 ลงวันที่ 10 มิ.ย. 63 ข้อหา“กรรโชกทรัพย์” ได้หน้าคอนโดย่านรัชดา–ปิ่นเกล้า ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม.

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก น.ส.ชญาดา ผู้ต้องหา ได้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา โดยนำภาพและข้อมูลของบุคคลอื่นมาใช้แอบอ้าง ซึ่งมักจะเลือกภาพบุคคลที่มีรูปร่างหน้าตาดีและประกอบอาชีพข้าราชการตำรวจ โดยล่าสุดได้นำภาพของข้าราชการตำรวจหญิง ยศร้อยตำรวจเอกมาใช้ ก่อนตีสนิทเหยื่อที่เป็นผู้ชายในเฟซบุ๊กจนสนิทสนม จากนั้นก็จะร่วมกับพวกสร้างเรื่องหลอกลวงขึ้นมา โดยมีการแอบอ้างเป็นบุคคลอื่นอีกประมาณ 3 คน มาร่วมพูดคุยกับผู้เสียหายให้เกิดความสงสาร เช่น ครอบครัวเดือดร้อนต้องการเงินด่วน, มารดาเสียชีวิตต้องการนำเงินไปจัดงานศพ, เมาสุราอยู่ร้านเหล้าแต่เงินไม่พอจ่าย หรือหลอกจำหน่ายอาวุธปืน เป็นต้น เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ยอมโอนเงินให้กับผู้ต้องหาก็จะบล็อคการติดต่อทุกช่องทาง ผู้เสียหายจึงเข้าเเจ้งความตามสถานีตำรวจในท้องที่ต่างๆ จนศาลออกหมายจับไว้

จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุมาแล้ว ตั้งแต่ปี 2562 - 2563 หลอกผู้เสียหายเป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 1,000 – 600,000 บาท ความเสียหายรวมหลายล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ได้เงินจากการหลอกลวงไปแล้ว ทางผู้ต้องหาจะนำเงินมาแบ่งกันเพื่อนำไปเล่นการพนัน และใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย กระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า น.ส.ชญาดา หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่คอนโดในนกทม.จึงเข้าจับกุมได้ดังกล่าว

ภายหลังการจับกุมมีผู้เสียหายเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. เพื่อให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวของ น.ส.ชญาดา จำนวน 7 ราย รวมความเสียหายประมาณ 1,760,0000 บาท นอกจากนี้ทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยมีประวัติการกระทำความผิดมาแล้วหลายคดี มีการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลมาแล้ว กว่า 12 ครั้ง และเมื่อประมาณเดือนธ.ค.62 เคยถูกจับกุมในพื้นที่ สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี กรณีนำภาพลูกสาวแท้ๆ ของตนเอง อายุ 19 ปี ที่ป่วยพิการทางสมอง ลงในแอพพิเคชั่นหาคู่ “BADOO” ก่อนจะร่วมกับพวกพาลูกสาวไปส่งให้หลับนอนกับชายหนุ่ม เมื่อมีคนตกเป็นเหยื่อ ผู้ต้องหาจะแต่งชุดข้าราชการแอบอ้างเพื่อไปกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหายอีกด้วย

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “ขนมหวาน โสพรรณพิพัฒน์” ซึ่งตนเองปลอมขึ้นมา ด้วยการนำภาพของบุคคลอื่นมาแสดง นำไปการหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินมาให้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่ง สน.คันนายาว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป