ผบ.ตร.ขู่ตำรวจพบบ่อนพนันพื้นที่ใดไม่มีย้ายช่วยราชการอีกแล้ว

เมื่อวันที่ 5 ม.ค ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร เปิดเผยว่า ได้ส่งชุดสืบสวนหาข้อมูลเกี่ยวกับการลักลอบเล่นการพนันลงพื้นที่หลังมีการรายงานเข้ามาหลายพื้นที่ ได้ส่งตำรวจเข้าไปประกบ เฝ้าระวัง แต่ยอมรับว่า ยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอในการเอาผิด เพราะการลักลอบเล่นการพนัน หรือบ่อนพนัน มักมีการกล่าวอ้างบุคคลตัวละครเจ้าของบ่อน มีการอ้างชื่อบุคคลสำคัญ นักการเมืองให้การสนับสนุน ในกรณีนี้ตำรวจทราบดี เท่าที่สื่อมวลชนทราบ แต่บางครั้งการทำงานของตำรวจ เมื่อไม่มีพยานหลักฐาน ก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ แต่ขอฝากไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังบ่อนพนันให้ระวังตัวไว้ หากมีหลักฐานเมื่อใดจะดำเนินคดีทันที

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นกังวล และสั่งการให้ไปเร่งจัดการปัญหาบ่อนการพนัน เพราะที่ผ่านมาพบการแพร่ระบาดโควิด-19 เชื่อมโยงกับการลักลอบเล่นพนัน ทั้งในพื้นที่ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร  จึงสั่งการไปยัง ผบช.น และ ผบช.ภ2 ให้กวดขันจับกุมอย่างเด็ดขาด หากพบมีเบาะแส หรือมีการกระทำผิดที่ชัดเจนในพื้นที่ใด จะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่ผู้ปฏิบัติไปยันผู้บังคับบัญชา เพราะที่ผ่านมา มีคำสั่งทางวินัยดำเนินการกับผู้บังคับการจังหวัดไปแล้วหลายจังหวัด หากยังพบอีก ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก็ต้องถูกพิจารณาความผิดด้วย โดยการพิจารณาโทษในครั้งถัดไป จะมีคำสั่งย้ายขาดจากตำแหน่งเดิมทันที จะไม่ใช่คำสั่งช่วยราชการเหมือนเดิมที่เคยปฏิบัติมา

ผบ.ตร. ยังกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปทบทวนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 234 ว่าด้วยหน่วยงานใดที่มีส่วนรับผิดชอบ เช่น ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจท่องเที่ยวที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น ๆ ร่วมกับตำรวจพื้นที่ที่มีปัญหา ต้องถูกดำเนินการตามระเบียบ ขณะนี้ยอมรับว่าตำรวจอาจหย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้ถูกสังคมตำหนิเกี่ยวกับการปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบเล่นการพนัน จนเป็นสาเหตุหนึ่งของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทำให้หลังจากนี้ต้องทำความเข้าใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน