posttoday

ศาลจำคุก2ปีแนวร่วมนปช.คดีร่วมครอบครองระเบิดสังหาร

25 ธันวาคม 2563

ศาลอาญา จำคุก 2 ปี "แนวร่วม นปช." หลังรับสารภาพคดีร่วมครอบครองระเบิดสังหาร ส่วนอีกคนยกฟ้อง เหตุฟ้องซ้ำคดีที่พิพากษาเด็ดขาดแล้ว

ที่ศาลอาญารัชดา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 25 ธ.ค.63 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีแนวร่วม นปช.ครบอครองระเบิด คดีหมายเลขดำ อ.2424/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกฤษดา หรือดา ไชยแค อายุ 49 ปี และนายพัสนัย หรือเอก พนัส อายุ 45 ปี แนวร่วม นปช. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันครอบครองอาวุธที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ได้ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ พ.ศ.2490 , พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530

พฤติการณ์แห่งคดีสืบเนื่องจากระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.56 - 13 ส.ค.57 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสองกับพวกได้มีระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ RGD 5 และชุดเรือนชนวนจำนวน 20 ลูกซึ่งหากเกิดระเบิดจะมีอนุภาพทำลายล้างที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ภายในรัศมี 15-20 เมตรเหตุเกิดที่แขวง-เขตบางซื่อ กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน จำเลยให้การรับสารภาพ

โดยวันนี้ ศาลเบิกตัวจำเลยทั้งสอง มาจากเรือนจำพร้อมฟังคำพิพากษา

ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพแล้ว เห็นว่าจำเลยให้การรับสารภาพ แต่ในส่วนของนายกฤษดา จำเลยที่ 1 นั้นก็ได้ถูกฟ้องในข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และพ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ฯ ลักษณะเดียวกันซึ่งเป็นการทำผิดในช่วงเวลาเดียวกัน และศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษเด็ดขาดไปแล้ว ในคดีหมายเลขแดง อ.588/2563 เหตุที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นคดีอาญานี้อีกจึงย่อมต้องระงับไป จึงพิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1

ส่วนนายพัสนัย จำเลยที่ 2 รับสารภาพความผิดตามฟ้อง โดยการกระทำนั้นเป็นความผิดกรรมเดียวที่ผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงให้ลงโทษบทหนักที่สุดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดฯ จำคุกเป็นเวลา 4 ปี ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกไว้ 2 ปี ส่วนที่โจทก์มีคำขอให้นับโทษจำเลยต่อจากอีกคดีที่ศาลอาญามีนบุรีนั้น คดีดังกล่าวยังไม่มีคำพิพากษาจึงไม่อาจนับโทษต่อได้จึงให้ยกคำร้องในส่วนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายกฤษดา จำเลยที่ 1 นั้น ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 มี.ค.63 ที่ผ่านมา ศาลอาญา ได้มีคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต ในคดีหมายเลขดำ อ.426/2563 กรณีเมื่อวันที่ 19 ม.ค.57 นายกฤษดาได้ปาระเบิดใส่เวทีผู้ชุมนุมกลุ่มกปปส. บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 26 ราย ซึ่งต่อมาศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิต