ยธ.เร่งแก้กม.ยาเสพติดรวมเป็นประมวลฉบับเดียวคาด3เดือนเสร็จ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) และหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการดำเนินการดำเนินงานของคณะกรรมการศูนย์ปฎิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-15 ธ.ค. 63 มูลค่า 866.2 ล้านบาทแบ่งเป็นทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการเสนอให้อายัด 240.7ล้านบาท และเป็นถูกยึดไว้ชั่วคราวจำนวน 465.5 ล้นบาท จำนวนนี้ไม่รวมกับการยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายค้าไม้ฝั่งธนซึ่งดีเอสไอได้ยึดอายัด 150 ล้านบาท และทรัพย์สินที่ค้างท่อจากการยึดทรัพย์และติดตามเงินในคดีเก่าอีก471.5 ล้านบาท รวมทั้งเงินค่าโทษปรับในคดียาเสพติดอีก 3.7 ล้านบาท ยังไม่รวมกับการใช้กฎหมายฟอกเงินของป.ป.งที่ยึดอายัดทรัพย์จากการค้ายาเสพติดอีก 55.6 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากรวมทั้งหมดยอดการยึดอายัดจะอยู่ที่ 1,183.7 ล้านบาท

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แม้จะมีการยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด โดยใช้พ.ร.บ.มาตรการ และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรวมทั้งกฏหมายด้านภาษี ในคดียาเสพติด เน้นการจับกุมยึดทรัพย์ เครือข่ายรายใหญ่ทั้งขบวน การ แต่ปัญหาที่ผ่านมาพบว่าหากการฟ้องในคดีอาญาหลุด มักทำให้คดีแพ่งและทรัพย์สิน ที่ยึดมาต้องถูกส่งคืน โดยแต่ละปีต้องคืนทรัพย์มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์จากที่ยึดมาได้ทั้งหมด กระทรวงยุติธรรมจึงได้เร่งแก้ประมวลกฎหมายยาเสพติด จำนวน 29 ฉบับให้เป็นฉบับเดียวเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินคดีต่อได้ หากคดีอาญาหลุดก็ให้ป.ปส.สามารถยึดทรัพย์ในคดีแพ่งได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ในคดีฟอกเงินหรือคดีภาษี คาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือนในการพิจารณา

“ขณะนี้กฎหมายดังกล่าวอยู่ในชั้นกรรมาธิการ ได้ตรวจสอบไปแล้วจำนวน 81 มาตราจากทั้งหมด 181 มาตรา เชื่อมั่นว่าหากกฎหมายดังกล่าว มีผลบังคับใช้จะทำให้สามารถยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดได้ เป็นหมื่นล้าน และมั่นใจมากๆว่ากฎหมายดังกล่าวจะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ในรัฐบาลชุดนี้”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว