posttoday

เปิดไทม์ไลน์สาววัย 21 ปีลอบเข้าไทยก่อนมาตรวจพบเชื้อกทม.

02 ธันวาคม 2563

พบสาววัย 21 ติดเชื้อโควิด -19 ลอบเข้าไทยทางแม่สาย ก่อนต่อเครื่องบินเข้า กทม. ตรวจพบเชื้อ รพ.แห่งหนึ่งแถวบางนา ด้าน สธ.แถลง พบหญิงลักลอบกลับจากเมียนมาติดโควิดอีก 6 รายในเชียงใหม่-พะเยา-พิจิตร-กทม.-ราชบุรี

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 63 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงความคืบหน้าการสอบสวนโรคและการตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสใกล้ชิดกรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย โดยนพ.โสภณกล่าวว่า ทีมปฏิบัติการสอบสวนโรคในพื้นที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา พิจิตร ราชบุรี กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมควบคุมโรคสอบสวนโรคและนำข้อมูลนำเสนอเพิ่มเติม โดยทบทวนผู้ติดเชื้อรายเดิม 4 ราย พบที่จ.เชียงใหม่ 1 ราย และเชียงราย 3 ราย มีอาการในเกณฑ์ที่ดี มี 1 ใน 3 รายไม่มีอาการ ทั้งนี้ จากการค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม พบผู้ติดเชื้ออีก 6 ราย กระจายใน 4 จังหวัดคือ เชียงใหม่ 2 ราย พะเยา พิจิตร ราชบุรี และ กทม.จังหวัดละ 1 ราย โดยเดินทางเข้าประเทศใช้ช่องทางธรรมชาติ

นพ.โสภณกล่าวต่อ ไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทั้ง 6 รายมีรายละเอียด ดังนี้ รายที่ 1 ผู้ลักลอบรายที่ 5 เป็นหญิงไทย อายุ 28 ปี พบที่จ.พะเยา ทำงานสถานบันเทิงจีวันจี จ.ท่าขี้เหล็ก ในเมียนมา วันที่ 27 พฤศจิกายน กลับจากเมียนมาตามเส้นทางธรรมชาติ วันที่ 28 พฤศจิกายน เพื่อนขับรถมอเตอร์ไซค์มาส่งที่ปากซอยโลตัสแม่สาย เหมาแท็กซี่สีแดงขาว จำทะเบียนไม่ได้มาส่งที่เมืองเชียงราย สวมหน้ากากทั้งคู่ ต่อมา 15.00 น. พักห้องเช่าของเพื่อนชั้น 2 ของตึกแถวหลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีเชียงราย อาศัยอยู่คนเดียว เวลา 21.00 น. ออกไปซื้ออาหารเย็นที่ร้านค้าในตัวเมืองมากินที่ห้อง โดยสวมหน้ากากอนามัย

นพ.โสภณกล่าวอีกว่า วันที่ 29 พฤศจิกายน ตอนเย็นแฟนขับรถยนต์ส่วนตัวจาก จ.พะเยา มารับไปเที่ยวงานสิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย เวลา 20.00 น. จอดรถโซน C26 นั่งรถสองแถวเข้างาน นั่งโต๊ะบริเวณลานเบียร์ ไม่ได้เข้าร่วมหน้าเวที โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลายกเว้นตอนดื่มเบียร์ เวลา 23.00 น. กลับเข้าห้องเช่าของเพื่อนนั่งดื่มเบียร์ต่อ เวลา 24.00 น. ออกไปพักโรงแรมฮ็อปอินน์ (Hop Inn) ในตัวเมือ วันที่ 30 พฤศจิกายนเวลา 12.00 น. ออกจากโรงแรม Hop inn รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารข้างทาง แวะร้านสะดวกซื้อ 7-11 ปั๊ม ปตท. อ.แม่สรวย เดินทางไป จ.เชียงใหม่ใช้เส้นทางเชียงราย-เวียงป่าเป้า-แม่ขะจาน เวลา 17.00 น. เข้าตรวจเชื้อที่รพ.เอกชนในจ.เชียงใหม่ แล้วเดินทางกลับ จ.พะเยา โดยรถยนต์ส่วนตัวกับแฟน แวะปั๊ม ปตท.แม่ขะจาน เพื่อเข้าห้องน้ำ เวลา 24.00 น. เข้ารักษารพ.พะเยา วันที่ 1 ธันวาคม รับแจ้งจาก รพ.เอกชน จ.เชียงใหม่ ตรวจพบ SARS-CoV-2 ขณะที่ผลตรวจที่ รพ.พะเยา ยืนยันตรวจพบเชื้อเช่นกัน

เปิดไทม์ไลน์สาววัย 21 ปีลอบเข้าไทยก่อนมาตรวจพบเชื้อกทม.

นพ.โสภณกล่าวต่อว่า ส่วนรายที่ 2 เป็นผู้ลักลอบเข้าประเทศรายที่ 6 หญิงไทยอายุ 21 ปี เข้ามากทม. วันที่ 28 พฤศจิกายน เริ่มป่วยมีไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูก ตรวจพบเชื้อวันที่ 29 พฤศจิกายน สอบสวนโรคพบวันที่ 17-21 พฤศจิกายนไปเที่ยวที่จีวันจี จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พร้อมเพื่อนสนิทที่อาศัยในจ.พิจิตร วันที่ 28 พฤศจิกายน เวลา 05.00 น. เดินทางเข้าไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เวลา 06.00 น. มีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง มารับไปส่งโรงแรมที่พักใน อ.แม่สาย ต่อมาเริ่มมีไข้ เจ็บคอ น้ำมูก จากนั้นเรียกรถ grab ไปส่งที่สนามบินเชียงราย เวลา 13.40 น. ขึ้นเครื่องบินไฟลต์ DD8717 ลงสนามบินดอนเมือง เวลา 17.00 น. นั่งแท็กซี่จากสนามบินกลับที่พัก วันที่ 29 พฤศจิกายน เวลา 16.30 น. ไปตรวจที่คลินิก แพทย์แนะนำให้ไปรพ. เวลา 17.00 น. นั่งรถส่วนตัวมากับแฟนไปตรวจที่รพ.เอกชนพบเชื้อ SAR-CoV-2 N 15.53 ORF1ab 15.54

รายที่ 3 หญิงไทย อายุ 25 ปี ที่ จ.พิจิตร ไม่มีอาการป่วย ตรวจพบเชื้อวันที่ 1 ธันวาคม วันที่ 17-27 พฤศจิกายน ไปเที่ยวโรงแรมจีวันจี จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา พร้อมเพื่อนสนิทที่อาศัยอยู่ กทม. เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เวลา 05.00 น. เดินทางเข้ามาไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เวลา 06.00 น. รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างมารับไปส่งที่โรงแรมในที่พัก อ.แม่สาย ต่อมาเริ่มมีไข้ เจ็บคอ น้ำมูก จากนั้นเรียกรถ Grab ไปส่งที่สนามบินเชียงราย เวลา 13.40 น. ขึ้นเครื่องบินไฟลต์ DD 8717 ลงสนามบินดอนเมือง เวลา 15.00 น. ต่อเครื่องบินไปสนามบินพิษณุโลก เพื่อนมารับจากสนามบินกลับ จ.พิจิตร พักกับเพื่อนที่มารับ และไปกินอาหารร้าน Bird bar ในจ.พิจิตรกับเพื่อน 4 คน ไม่สวมหน้ากากอนามัย วันที่ 1 ธันวาคม สสจ.พิจิตรเก็บตัวอย่างส่งตรวจ กักตัวที่สถานกักกันโรคท้องถิ่น ผลตรวจพบเชื้อ SAR-CoV-19

เปิดไทม์ไลน์สาววัย 21 ปีลอบเข้าไทยก่อนมาตรวจพบเชื้อกทม.

รายที่ 4 หญิงไทย อายุ 36 ปี ในจ.ราชบุรี เริ่มป่วย ไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก เสมหะ และปวดศีรษะ วันที่ 2 ธันวาคม ตรวจพบเชื้อ SARS-CoV-2 วันที่ 3-8 พฤศจิกายน อยู่เมียนมา มีประวัติไปเที่ยวสถานบันเทิงจีวันจี จ.ท่าขี้เหล็ก ระหว่างวันที่ 23-24 พฤศจิกายน ในงานพบผู้มีผลตรวจพบเชื้อยืนยันรายก่อนหน้า แต่รายนี้ให้ประวัติว่าอยู่คนละกลุ่มและคนละห้อง แต่สังเกตว่าเพื่อนร่วมห้อง 1 ราย มีไข้ หนาวสั่น ไอ มีน้ำมูก ต่อมาวันที่ 26 พฤศจิกายน หญิงสาวคนนี้เริ่มป่วย ซื้อยามากินเอง วันที่ 29 พฤศจิกายน เดินทางกลับไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ มีชาวเมียนมานำทาง จากนั้น เดินทางจากชายแดนไปสนามบินเชียงใหม่ ด้วยรถยนต์ของเพื่อนพร้อมแฟนเพื่อน ทั้งคู่ไม่สวมหน้ากาก นั่งเครื่องบินจากเชียงใหม่สายการบิน Thai Lion Air เวลา 12.00 น. ถึงสนามบินดอนเมืองและใช้บริการแท็กซี่ไปสถานีขนส่งหมอชิต จากนั้นใช้บริการรถตู้ไปลงห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีราชบุรี ใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อตรวจรักษารพ.เอกชนวันที่ 1 ธันวาคม แพทย์ส่งตรวจหาเชื้อและส่งต่อไป รพ.ราชบุรี วันที่ 2 ธันวาคม ผลตรวจพบเชื้อ SAR-CoV-2 ที่รพ.ราชบุรี ส่งตรวจยืนยันผลที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 สมุทรสงคราม หลังจากนั้นทีมสอบสวนโรค รพ.ราชบุรี ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคทันที

เปิดไทม์ไลน์สาววัย 21 ปีลอบเข้าไทยก่อนมาตรวจพบเชื้อกทม.

รายที่ 5-6 หญิงไทย อายุ 23 และ 25 ปี ใน จ.เชียงใหม่ เมื่อมีข่าวพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่มา จากสถานบันเทิงจีวันจี จ.ท่าขี้เหล็ก จึงเข้าตรวจหาเชื้อ เดินทางกลับเข้าไทย พร้อมเพื่อนรวม 3 ราย และค้างที่บ้านเพื่อนในอ.แม่สาย จ.เชียงราย กลับมาที่พักโดยให้ประวัติว่า อยู่ในที่พัก ทั้งคู่ไปเข้ารับการตรวจที่ รพ.เอกชน ผลตรวจพบเชื้อ ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันอีก 1 รายไม่ติดเชื้อ แต่อยู่ระหว่างกักตัว ทั้งนี้ รายละเอียดผู้ป่วย 3 รายล่าสุด ทีมสอบสวนโรคกำลังเก็บข้อมูลเพิ่มเติม และเร่งค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม

นพ.ธงชัย ขณะนี้เราติดตามกลุ่มผู้แอบลักลอบเข้ามาได้ และตรวจหาเชื้อโควิด-19 พร้อมกักตัวผู้นั้นในโรงพยาบาลแล้ว ภาพรวมอาการอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยส่วนผู้ที่เป็นกลุ่มผู้ที่ไปสัมผัส ทั้งกลุ่มเสี่ยงสูง เสี่ยงกลาง และเสี่ยงต่ำ ได้ตรวจหาเชื้อหมดทุกรายแล้ว สรุปได้ว่า ยังไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากคนกลุ่มผู้ที่ลักลอบเข้ามา และยังไม่มีการติดเชื้อในประเทศ ทั้งนี้ การตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่เป็นการนำเชื้อเข้ามาจากต่างประเทศเมียนมา ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบการควบคุมป้องกันโรคของ สธ.

“สธ.มั่นใจมากว่าจะไม่เกิดระบาดหนักเช่นต้นปี เนื่องจากเรามีองค์ความรู้ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่าช่วงแรก แต่ขอความร่วมมือประชาชนป้องกันตนเอง เนื่องจากคนไทยลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน เมื่อเข้ามาแล้วต้องตรวจหาเชื้อในผู้อื่นอีกจำนวนมาก ทำให้เสียงบประมาณมาก” นพ.ธงชัยกล่าว และว่า การลักลอบเข้าเมืองนั้น ผิดกฎหมายไม่น้อย 3 ฉบับคือ 1.พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เป็น การเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย 2.พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ 3.พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนั้น ผู้ที่อยู่ต่างประเทศแล้วจะเข้ามาจะต้องเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ดำเนินการตามขั้นตอนผ่านด่านการควบคุมโรค และรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ห้ามเข้ามาในช่องทางธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เดินทางเข้ามาแล้วจะต้องขอให้เข้ามารายงานตัวโดยด่วน เพื่อควบคุมและป้องกันโรคในประเทศ