posttoday

ผบ.ตร.ยิ้มสู้ไม่กดดันปฎิบัติหน้าที่ตามกติกาบ้านเมือง

20 ตุลาคม 2563

"พล.ต.อ.สุวัฒน์"กำชับผู้บังคับบัญชาดูแลลูกน้องให้ดีในช่วงมาดูแลผู้ชุมนุมทั้งที่อยู่อาหารการกิน ยันปฎิบัติหน้าที่ตามกติกาบ้านเมืองถ้าไม่ทำแล้วใครจะทำ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงการดูแลสวัสดิการตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ที่มาปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยในการชุมนุมว่า ได้พูดคุยกับทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และสำนักงานส่งกำลังบำรุงซึ่งเราพยายามหาที่พักและอาหารให้ดีกว่านี้ ได้รับคำชี้แจงจากทางนครบาลว่า อาหารได้มีการประกวดร้านค้าเข้ามา ถ้าร้านไหนที่ไม่ผ่านมาตรฐานและถูกร้องเรียนก็ตัดออกและเปลี่ยนร้านใหม่ ตนก็บอกว่าให้ไปหาร้านที่ดีกว่านี้มา

ทั้งนี้ ฝากไปถึงผู้บังคับบัญชาทุกคนว่าต้องดูแลลูกน้องดูแลซึ่งกันและกัน ไม่มีใครดูแลเรานอกจากเราดูแลกันเอง ฝากไปถึงเพื่อน ๆ ข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยว่า ผู้บังคับบัญชาจะพยายามทำให้ดีกว่านี้ ส่วนเรื่องเบี้ยเลี้ยงของตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ ขอให้เรื่องเบี้ยเลี้ยงโควิดเป็นบทเรียน หวังว่าจะเกิดขึ้นอีกแล้ว หากเกิดขึ้นซ้ำอีกก็ต้องลงโทษตามพยานหลักฐาน เรื่องเบี้ยเลี้ยงโควิดเช่นกัน ยืนยันว่าไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน อย่างไรต้องมีคนรับผิดชอบ

พล.ต.อ.สุวุฒน์ กล่าว่า ตนเป็นห่วงเรื่องที่พัก ที่อยู่ ที่กิน บางคนได้รับรายงานมาว่าเป็นเกาต์เพราะกินไก่ 3 มื้อ ตนก็ให้หมอโรงพยาบาลตำรวจไปตรวจเยี่ยมดูแล เราต้องดูแลกัน เชื่อว่าตำรวจส่วนใหญ่ที่มา เพราะเขาเชื่อว่าผู้บังคับบัญชาสั่งให้เขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง เขาไม่รู้หรอกว่าใครเห็นด้วยกับใคร เขามาทำหน้าที่รักษากฎหมาย ไม่ได้มาสู้รบกับใคร บางทีเราไปพูดกับลูกน้องก็อยากให้เขาผ่อนคลาย ให้เขาสบายใจ เพราะมันมาจากประสบการณ์ในชีวิตไม่ได้ตั้งเป้าให้ลูกน้องไปสู้รบปรบมือกับใคร แต่เราอยากให้เขาเข้าใจผู้บังคับบัญชาว่า เมื่อมีหน้าที่ต้องทำก็ต้องทำไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายให้ อยากให้เขาคิดแบบนี้ และเชื่อว่าลูกน้องส่วนใหญ่คิดแบบนั้น

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวถึงกรณีตำรวจทำสัญลักษณ์ชู 3 นิ้วเหมือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ต้องดูว่าบางคนอาจทำด้วยความคึกคะนอง บางคนอาจทำเพราะเห็นด้วย บางคนอาจจะทำเพื่อลดความรุนแรงในขณะนั้น แต่ละคนมีเหตุผล ถ้าอะไรที่ผิดเพี้ยนไป ก็ต้องทำความใจ การจะไปฟันธงว่าเขาผิด ไม่ใช่นิสัยตน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร เพิ่งมารับตำแหน่งได้ไม่นานมาเจอเรื่องหนักรู้สึกท้อหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า งานตำรวจเป็นแบบนี้มาตลอดชีวิต อาจมีเบาบ้าง หนักบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ตนไม่ได้รู้สึกเครียดหรือกดดันอะไร เพราะอีก 2 ปี ตนก็กลับบ้านแล้ว เพียงแต่เป็นห่วงอนาคตองค์กรจะเป็นอย่างไร ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร ชาวบ้านจะอยู่อย่างไร คนส่วนใหญ่ของประเทศกำลังมองหาอนาคตอยู่ว่า เรื่องนี้จะจบอย่างไร เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ที่สังคมบางกลุ่มตำหนิตำรวจว่าเป็น "ขี้ข้าเผด็จการ"  ผบ.ตร. กล่าวว่า เราเป็นขี้ข้าของกฎหมาย ที่บังคับให้เราทำอยู่ วันนี้เราถือกฎกติกาบ้านเมือง ถามว่ามีกฎกติกาอื่นให้เราเลือกหรือไม่ วิธีการบริหารราชการปัจจุบันเป็นแบบนี้ เราก็ต้องยึดถือ เราไม่ยึดถือตรงนี้แล้วใครจะยึดถือ เราเป็นคนรักษากติกาของคนทั้งประเทศ หากเราไม่ทำก็ไม่มีคนอื่นทำ