posttoday

รองโฆษกตร.เผยเตรียมชันสูตรศพ "จารุชาติ" พยานคดีบอสรอบ2

02 สิงหาคม 2563

รองโฆษกตร.เผยเจ้าหน้าที่เตรียมชันสูตรศพ "จารุชาติ" พยานคดี "บอส" รอบ 2 หลังยังมีความเคลือบแคลงสงสัยในประเด็นการเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 63 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จว.เชียงใหม่ ว่า ช่วงเช้าของวันนี้ (2 ส.ค. 63) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ได้ขอความร่วมมือกับทางญาติและครอบครัว นายจารุชาติ มาดทอง ผู้เสียชีวิต จากคดีอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ค. 63 ซึ่ง นายจารุชาติ เป็นพยานคดีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ในการนำศพกลับมาชันสูตรพลิกศพโดยละเอียดอีกครั้ง ณ นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

ทั้งนี้เป็นการชันสูตรพลิกศพครั้งที่ 2 เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสามารถตอบคำถามสังคมได้ โดยพนักงานสอบสวนจะนำผลการชันสูตรพลิกศพทั้ง 2 ครั้ง เข้าประกอบสำนวนการสอบสวน

โดยก่อนหน้านี้ ภายหลังจากเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน ได้ทำการบันทึกตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุประกอบคดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจที่เกิดเหตุเก็บวัตถุพยานต่างๆ ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น แล้วได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่ นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อม ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เร่งสืบสวนขยายผลหาความเชื่อมโยงกับคู่กรณีและข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ตลอดจนทำการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ตามขั้นตอนกฎหมาย

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการเสียชีวิตของนายจารุชาติ เป็นการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติและสังคมยังมีความเคลือบแคลงสงสัยในประเด็นการเสียชีวิต รวมถึงความเชื่อมโยง ในการเป็นพยานในคดีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ซึ่งในเรื่องนี้ คณะพนักงานสอบสวน ได้ทำสำนวนการสอบสวน แบ่งออกเป็น 2 คดี คือ 1.สำนวนคดีจราจร และ 2.สำนวนชันสูตรพลิกศพ โดยยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์นิติเวช ประกอบกับ ผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุจากกองพิสูจน์หลักฐาน และ ข้อมูลทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ในประเด็นข้อสงสัยต่างๆ

"พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการด้วยรวดเร็วและความรอบคอบ เพื่อเร่งคลี่คลายประเด็นข้อสงสัยในทุกประเด็น จนสิ้นกระแสความ และเกิดความชันเจนรอบด้าน ตลอดจนต้องสามารถตอบคำถามสังคมและประชาชนได้อย่างเป็นเหตุและผล โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงทางคดีเป็นสำคัญ เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมให้กับประชาชน"รองโฆษกตร.กล่าว