ป.ป.ส.เผยยาไอซ์ทะลักเข้าไทยหลังเมียนมาปราบหนัก

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน จับรถบรรทุกลอบขนยาไอซ์ประมาณ 1,200 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า สาเหตุที่กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดได้พยายามลักลอบขนลำเลียงไอซ์เข้ามาเป็นจำนวนมากและมีความถี่ขึ้นในช่วงนี้ เชื่อว่าเป็นความพยายามของกลุ่มผู้ค้ายาฯได้เร่งระบายไอซ์ออกจากแหล่งผลิต เนื่องจากตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ทางการเมียนมาได้เปิดปฏิบัติการปราบปรามแหล่งผลิตยาเสพติดอย่างหนัก และในช่วงเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของเขื้อไวรัสโควิด-1 ขบวนการค้ายาฯจึงชะลอการลำเลียงไประยะหนึ่งส่งผลให้ยาเสพติดหาซื้อได้ยากขึ้น และเมื่อมีมาตรการผ่อนปรน จึงทำให้ยาเสพติดทะลักเข้ามา

ส่วนการจับยึดไอซ์ปริมาณมากในประเทศตลอดปีงบ 2563 นี้ จากข้อมูลทางการข่าวและการขยายผลพบว่า มีการขนไอซ์ถึง 17 ครั้ง และไอซ์กว่า 11 ตันได้ ถูกลำเลียงผ่านไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่มีการจับกุมได้ส่วนใหญ่จะไปที่ภาคใต้เพื่อขนส่งลงทะเล และลำเลียงออกต่อไปยังประเทศที่สาม เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และประเทศแถบโอเชเนีย

"นอกจากนี้ยังมีไอซ์อีกกว่า 4 ตัน ที่ทางการเมียนมายึดได้ ซึ่งคาดว่ามีอยู่ระหว่างเตรียมการที่จะลำเลียงเข้าไทยเพื่อจะส่งต่อผ่ายไปยังประเทศที่สามเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม จากสภาพภูมิประเทศที่ไทยมีชายแดนติดกับแหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ อักทั้งยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่มีเส้นทางการติดต่อเชื่อมโยงทั้งทางบก อากาศ และทะเล จึงหลีกเลี่ยงได้ยากที่ไทยจะเป็นทางผ่านไอซ์ออกไปนอกภูมิภาค "เลขาธิการฯป.ป.ส.กล่าว

ทั้งนี้สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ได้วิเคราะห์สถานการณ์ยาเสพติดสังเคราะห์ในภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( Synthetic drugs in East and Southeast Asia: latest developments and challenges) ว่า ขณะนี้ไทยและประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงกำลังเผชิญกับปัญหาการลักลอบลำเลียงยาเสพติดรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะไอซ์ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของยาเสพติดสังเคราะห์ในภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการติดตามสถานการณ์ปัญหายาเสพติด ของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงาน ป.ป.ส. (ศปก.ป.ป.ส.) พบว่า ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาในปีงบประมาณ 2563 พบว่า เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางไอซ์สูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2562 จำนวนมาก ในคดีภาพรวมของทั้งประเทศ และคดีที่ยึดได้ในระดับ 100 กิโลกรัมขึ้นไป นอกจากนี้สถิติการจับกุมในปีงบ 2563 ยึดของกลางได้จำนวน 15.1 ตัน ในระดับ 100 กก.ขึ้นไปเพิ่มขึ้นถึง 13.5 ตัน

หากเปรียบเทียบกับในปีงบฯ 2562 ยึดของกลางรวม 10.8 ตัน ในระดับ 100 กก. ขึ้นไป 9.95 ตัน โดยช่วงปีนี้พบว่า กลุ่มผู้ค้ามีความพยายามลำเลียงไอซ์ในปริมาณที่มากโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านบ่อยครั้ง จำนวนนี้มี 5 ครั้งที่พบว่าเป็นการลำเลียงในระดับ 1 ตันขึ้นไป และโดยเฉพาะช่วงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค โควิด– 19 ระหว่างเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2563 ยึดไอซ์ระดับ 100 กก. ได้ถี่ขึ้นถึง 8 ครั้ง ยึดของกลางได้ 4.3 ตัน และสองสัปดาห์ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ยึดไอซ์ติดต่อกัน 2 ครั้ง ได้ของกลางมากถึง 2.44 ตัน ในพื้นที่ของ จ.สุราษฎร์ธานี และนราธิวาส