ส่งข้าวสาร 1.3 ตันช่วย"ชาวเล-คนเลี้ยงช้าง"ภาคใต้บรรเทาโควิด-19

พระชายกลาง อภิญาโณ ประธานมูลนิธิสหชาติ และประธานกองทุนรักคุณเท่าช้าง มอบข้าวสาร 1.3 ตัน ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือบรรเทาภัยโควิด-19 กับกองทุนวิจัยและศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เพื่อจัดหาอาหารเพื่อช้าง 52 เชือก (ช้าง 52 เชือก) และเครื่องอุปโภค บริโภค แก่ผู้เลี้ยงช้าง 4 ปางช้าง และชุมชนชาวเล จังหวัดภูเก็ต และพังงา โดยมี นายมลศิริ ศุภีศรี รักษาการหัวหน้าศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย(เขาใหญ่) พร้อมอาสาสมัครมารับมอบ ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถนนวิภาวดีรังสิต

พระชายกลาง อภิญาโณ กล่าวว่า ในฐานะที่ดูแลกองทุนรักคุณเท่าข้าง และเป็นพระสงฆ์ ได้บอกกล่าวญาติโยมในโอกาสที่แสดงความเมตตา ต่อช้าง ทั้งที่ป่วย และเป็นช้างแม่ลูกอ่อน คนเลี้ยงช้าง รวมถึงชาวเลที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปหาปลาแต่ไม่มีคนซื้อจึงนำสิ่งของที่พอจัดหาได้มอบไปกับรถพยาบาลช้างส่งต่อเพื่อมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ จึงขอสื่อสารกับญาติธรรมเพื่อระดมความช่วยเหลือเกื้อกูลในยามวิกฤตไปยังพี่น้องชาวเลที่หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต และพังงา โดยรถพยาบาลช้างจะจอด ณ บริเวณหน้าอาคาร สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถ.วิภาวดีรังสิต หรือบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี มูลนิธิพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ธนาคาร กรุงเทพ ประเภท บัญชี สะสมทรัพย์ สาขา อาคารยาคูลท์ สนามเป้า เลขบัญชี 210-0-65400-9 ติดต่อสอบถามได้ที่ นายอลงกต ชูแก้ว ผอ.กองทุนวิจัยและอนุรักษ์ช้างไทย โทร 081-172-5670

ด้านนายอลงกต ชูแก้ว ผอ.กองทุนวิจัยและอนุรักษ์ช้างไทย กล่าวถึงเหตุผลอะไรที่ “รถพยาบาล” จะต้องเคลื่อนออกไปให้การช่วยเหลือประชาชนและช้างไทยว่า ในอดีตช้างเป็นหน่วยรบ รวมทั้งเป็นหน่วยส่งเสบียงและอาวุธยุทโทปกรณ์ให้กับกองทัพสยาม จึงไม่แปลกที่สถานการณ์การระบาดครั้งนี้่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เขาใหญ่ จะออกมาทำหน้าที่คล้ายกับที่บรรพบุรุษได้สร้างเกียรติประวัติอันงดงามเอาไว้ในยามที่ประเทศคับขัน

ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ช้างจำนวนมากได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หน่วยกาารเลี้ยงช้างที่ยังหลงเหลืออยู่ในสังคม อาทิ สมาคมสมาพันธ์ช้างไทย และกองทุนวิจัยและอนุรักษ์ช้างไทยเขาใหญ่ ยังพอมีแรงที่จะช่วยช้างด้วยกันได้ โดยเฉพาะศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเขาใหญ่ ซึ่งหลายคนคงไม่ทราบว่าที่นี่ผู้บริหารทุกคนนับแตั้งแต่ ผู้อำนวยการ ผู้ช่วย หัวหน้าศูนย์ และผู้จัดการศูนย์ ไม่รับเงินเดือนมาราว 15 ปี ดังนั้นเราจึงไม่ลำบากมากนักเหมือนเพื่อนๆภาคเอกชน ที่ต้องประสบชะตากรรมแห่งผลกระทบครั้งนี้