ศบค.เคาะ ผ่อนปรน 6 กิจการ เริ่ม 3 พค.

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงมาตรการผ่อนปรน หลัง ศบค. มีมติขยายการประกาศบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ เป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่ 1-31 พ.ค. 63 โดยมีเนื้อหาสรุปดังนี้

-มาตรการที่ยังบังคับใช้ตามพระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน

-ห้ามเดินทางออกนอกเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิว 22.00น.-04.00 น.

-ห้ามเดินทางเข้า-ออก ราชอาณาจักรทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ

-ยังคง State Guarantine รองรับคนที่เดินทางเข้ามา ควบคุมการแพร่เชื้อ

-จำกัดการบินเข้า-ออก ของสายการบินเข้าประเทศ 1 เดือน

-ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด-ทำงานที่บ้านให้ได้ร้อยละ 50

-หลีกเลี่ยงการเข้าชุมชน แออัด

-มาตรการผ่อนปรน กำหนดมาตรฐานกลาง ต่อกิจการ และกิจกรรม ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กำหนดต่อไป ในแต่ละพื้นที่วางมาตรฐานเข้มข้นกว่ามาตรฐานกลางได้แต่น้อยกว่าไม่ได้ แนวทางการดำเนินการต้องคำนึงถึงสาธารณสุขเป็นหลัก ประกอบด้วยสังคมและเศรษฐกิจมาพิจารณา ยึดตาม มาตรา 9 พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ข้อ 11 ฉบับที่ 1 เช่นการทำความสะอาด ก่อนและหลังทำกิจกรรม การใส่หน้ากากอนามัย ทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ หนล้างมือบ่อย ๆ ยังไม่กำหนดให้ มีแอพลิเคชั่นตามตัวบุคคล

- 6 ประเภทกิจการและกิจกรรมที่ได้รับผ่อนปรน เริ่ม 3 พ.ค. ได้แก่

1.ตลาด ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย

2.ร้านจำหน่ายอาหาร

3.กิจการค้าปลีก-ส่ง ซูเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อ บริเวณพื้นที่นั่ง-ยืนรับประทาน รถเร่ ร้านค้าปลีกขนาดย่อย

4.กีฬาสันทนาการ กิจกรรมในสวนสาธารณะ เดิน รำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกาย โดยไม่เล่นเป็นทีม ไม่มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม

5.ร้านตัดผมเสริมสวย เฉพาะตัด สระ ไดร์ผม

6.อื่นๆ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์

- จะมีการประเมินทุก 14 วัน หากตัวเลขติดเชื้อคงต่อไปไม่เพิ่ม เราก็สามารถปรับคลายมาตรการให้มากขึ้นไปอีกได้ แต่ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เราก็มีความจำเป็นต้องกลับมาตรึงมาตรการเข้มใหม่ได้

-ส่วนเรื่องการขายสุรานั้น ยังคงมาตรการเดิมอยู่ คือขยายยังไม่ให้จำหน่ายเหล้าและสุราต่อไป ตามคำสั่งเดิม จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง