posttoday

ศาลสั่งจำคุก“พนม ศรศิลป์” อดีตผอ.พศ. 20 ปีคดีทุจริต

27 ธันวาคม 2562

ศาลอาญาคดีทุจริตกลางพิพากษาจำคุก 5 กระทง 20 ปี “พนม ศรศิลป์” อดีตผอ.พศ.คดีทุจริตงบพศ.พร้อมลูกน้อง ส่วน 2 ฆราวาสร่วมผิดเจอคุกด้วยไม่รอลงอาญา พร้องสั่งร่วมชดใช้ 15 ล้าน

ศาลอาญาคดีทุจริตกลางพิพากษาจำคุก 5 กระทง 20 ปี “พนม ศรศิลป์” อดีตผอ.พศ.คดีทุจริตงบพศ.พร้อมลูกน้อง ส่วน 2 ฆราวาสร่วมผิดเจอคุกด้วยไม่รอลงอาญา พร้องสั่งร่วมชดใช้ 15 ล้าน

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศzาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อท.253/2561 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพนม ศรศิลป์ อายุ 59 ปี อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.), นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ กองพุทธศาสนสถาน พศ., นายเจษฎา วงศ์เมฆ ฆราวาสติดต่อหาวัด , นายชรินทร์ มิ่งขวัญ ฆราวาส ทำหน้าที่ติดต่อหาวัด เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ ได้เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตฯ ,ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157 ประกอบมาตรา 83,86,91 และขอให้จำเลยที่ 1-3 ร่วมกันคืนหรือใช้เงิน จำนวน 12 ล้านบาทแก่ พศ. และให้จำเลยที่ 4 ร่วมกันคืนหรือใช้เงินจำนวน 3 ล้านบาทแก่ พศ. ด้วย

โดยพฤติการณ์แห่งคดี ระบุว่า พวกจำเลยได้เบียดบังเอาเงินงบประมาณ ของ พศ. ไปเป็นประโยชน์ของตน โดยใช้วัดเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดรับโอนเงินงบประมาณ

ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์-จำเลย นำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสี่ เป็นความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาว่า นายพนมจำเลยที่ 1 และนายวสวัตติ์ จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ ได้เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตฯ ส่วนนายเจษฎาจำเลยที่ 3 และ นายชรินทร์จำเลยที่ 4 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 (เดิม) ประกอบมาตรา 86

โดยการกระทำของจำเลยที่ 1-3 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม เป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ให้จำคุกนายพนม และ นายวสวัตติ์ รวม 4 กระทงๆ ละ 5 ปี เป็นจำคุกคนละ 20 ปี ส่วน นายเจษฎาให้จำคุก 4 กระทงๆ ละ 3 ปี 4 เดือน เป็นจำคุก 12 ปี 16 เดือน และจำคุกนายชรินทร์เป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน โดยจำเลยที่ 3-4ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละกระทงละกึ่งหนึ่ง จึงจำคุกนายเจษฎา 6 ปี 8 เดือน และจำคุกนายชรินทร์ 1 ปี 8 เดือน

นอกจากนี้ ศาลให้นายพนม นายวสวัตติ์ และนายเจษฎา ร่วมกันคืนเงินหรือใช้เงินจำนวน 12 ล้านบาท โดยให้นายชรินทร์ฆราวาสซึ่งทำหน้าที่ติดต่อหาวัด ร่วมรับผิดคืนเงินหรือใช้เงินกับจำเลยที่ 1 - 3 จำนวน 3 ล้านบาทแก่พศ.ผู้เสียหายด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เป็นสำนวนที่แรกที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษนายพนม ซึ่งกรณีทุจตริตเงินงบประมาณ พศ.นั้นมีคดีหลายสำนวนที่ได้กล่าวหานายพนมร่วมกับฆราวาส และพระเถระชั้นผู้ใหญ่