posttoday

สธ.-ยุติธรรม เดินหน้าร่วมกันศึกษาปลดล็อคกัญชา-กระท่อมใช้ทางการแพทย์

27 ธันวาคม 2562

สาธารณสุข-ยุติธรรม ร่วมกันศึกษาเพื่อนำกัญชาและกระท่อมมาใช้ทางการแพทย์ เชื่อสำเร็จจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมหาศาล

สาธารณสุข-ยุติธรรม ร่วมกันศึกษาเพื่อนำกัญชาและกระท่อมมาใช้ทางการแพทย์ เชื่อสำเร็จจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมหาศาล 

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยการดำเนินการเพื่อยกเลิกพืชกัญชาและพืชกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษ โดยจะร่วมกันศึกษาข้อมูลสภาพปัญหาแนวทางในการยกเลิก รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการควบคุมที่เหมาะสมกับประเทศไทย 

นายอนุทิน เปิดเผยหลังการลงนามว่า กัญชาและกัญชงถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ ในกฎหมายฉบับปัจจุบันพืชทั้ง 2 ชนิดมีประโยชน์ทางการแพทย์ สำหรับกัญชามีผลวิจัยมากมายยืนยันว่าสามารถรักษาผู้ป่วยได 

ขณะที่กระท่อมนั้น หลายประเทศไม่ได้จัดให้เป็นยาเสพติดและไม่ได้ถูกควบคุมโดยสหประชาชาติ จึงสมควรที่ประเทศไทย จะผลักดันมาใช้ประโยชน์สร้างความมั่นคงทางยาและต่อยอดนวัตรกรรมด้านการเกษตรที่มีรากฐานมาจากภูมิปัญญาคนไทย ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจสร้างรายได้กับประชาชน ภายใต้กลไกการควบคุมที่รัดกุมให้สอดคล้องกับปริบทของประเทศไทยและปริบททั่วโลก การปลูก การผลิต การสกัดจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐเพื่อควบคุมการใช้ไม่ให้เกิดผลเสียตามมา  

ปัจจุบันนโยบายกัญชาของไทยมาได้ไกล กระทรวงสาธารณสุขได้ทยอยเปิดคลีนิคกัญชาทั่วประเทศ และให้หมอพื้นบ้านมาลงทะเบียน ในเดือน ม.ค.2563 มอบหมายให้กรมการแพทย์ทางเลือกและแพทย์แผนไทย เปิดคลีนิคกลางกัญชา ให้ผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาได้ กำลังนำของใต้ดินขึ้นมาบนดิน และทำให้มันมีมาตรฐานดีต่อประชาชน 

รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงความกังวลจากประชาชนบางส่วน ว่าหากสามารถทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการใช้อย่างถูกต้องพืชทั้ง 2 ชนิด จะเป็นประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ที่ผ่านมาทั้ง 2 กระทรวงได้ตั้งคณะกรรมการมาหารือเรื่องนี้บ้าง คือ คณะกรรมการยาเสพติดให้โทษ มี เลขา อย. และเลขา ปปส.ร่วมด้วย แต่การเซ็นเอ็มโอยูคือการยกระดับความร่วมมือไปอีกขั้น  

โดยหลังจากนี้ทั้ง 2 กระทรวงจะรวบรวมข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งข้อมูลทางวิชาการเพื่อเสนอต่อรัฐบาล ใช้ประกอบการเสนอร่างกฎหมายเพื่อการยกเลิกกัญชาและกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษต่อไป เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐมนตรี 2 กระทรวง ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากพืช 2 ชนิดทั้งด้านการแพทย์ และการสร้างรายได้ให้ประชาชน ส่วนความกังวลว่าสหประชาชาติจะไม่ยอมให้ปลดล็อคขอย้ำว่าหากมุ่งใช้ไปในทางการแพทย์ เราสามารถควบคุมได้และไม่สร้างปัญหา ซึ่งสหประชาชาติก็ยอมรับได้ 

"ขณะนี้ยังมีร่างกฎหมายเกี่ยวกับกัญชา อยู่ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอีกหลายฉบับ ก็หวังว่าจะช่วยกันผลักดัน เพื่อประโยชน์โดยรวมของประชาชน"