posttoday

ดีเอสไอโชว์ 7 ผลงานคดีพิเศษทิ้งท้ายปี 62

25 ธันวาคม 2562

อธิบดีดีเอสไอ แถลงโชว์ 7 ผลงานคดีพิเศษปี 62 กวาดจับขบวนการนำเข้ารถหรูสำแดงเท็จ 207 สำนวน ฟ้องบ.ฟิลิปมอริสเลี่ยงภาษีนำเข้าบุหรี่ยกแรกศาลสั่งปรับ 1,200 ล้าน ลุ้นคำพิพากษาอีกคดีต้นปีหน้า ส่วนคดีสหกรณ์คลองจั่น-ธรรมกายเหลือค้างอีก 9 คดี

อธิบดีดีเอสไอ แถลงโชว์ 7 ผลงานคดีพิเศษปี 62 กวาดจับขบวนการนำเข้ารถหรูสำแดงเท็จ 207 สำนวน ฟ้องบ.ฟิลิปมอริสเลี่ยงภาษีนำเข้าบุหรี่ยกแรกศาลสั่งปรับ 1,200 ล้าน ลุ้นคำพิพากษาอีกคดีต้นปีหน้า ส่วนคดีสหกรณ์คลองจั่น-ธรรมกายเหลือค้างอีก 9 คดี

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)  พ.ต.อ.ไพสิฐ  วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยผลการดำเนินคดีพิเศษด้านอาชญากรรมทางเศรษฐกิจในปี 2562 ว่า สอบสวนแล้วเสร็จ 185 คดี ประกอบด้วย 1.คดีลัก ลอบนำเข้ารถยนต์หรูโดยสำแดงเท็จ หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร ซึ่งดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ รวม 207 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 135 เรื่อง โดยสรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องพร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งให้อัยการแล้ว และยังมีคดีที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ 72 เรื่อง

2 คดีการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ในการชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FOREX 3D) ซึ่งดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ มีการยึดอายัดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากการกระทำความผิดมูลค่าประมาณ 750 ล้านบาท

3.คดีแชร์แม่มณี”ซึ่งมีผู้เสียหายประมาณ 4,000 ราย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1,300 ล้านบาท และได้ติดตามยึดอายัดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากการกระทำความผิดมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท 4 คดีแชร์ไนซ์รีวิวมีผู้เสียหายจำนวน 2,060 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 368 ล้านบาท และได้ติดตามยึดอายัดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากการกระทำความผิดมูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท 5.คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นและวัดพระธรรมกาย รับเป็นคดีพิเศษ27 คดี ดำเนินการแล้วเสร็จ 18 คดี แยกส่งพนักงานอัยการจำนวน 15 คดี และส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 2 คดี รวมสำนวน 1 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการ 9 คดี 6 คดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ถวายที่ดินให้พระเทพญาณมหามุนี หรือไชยบูลย์  สุทธิผลโดยมี นายอนันต์ อัศวโภคิน เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน อันอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ล่าสุด อธิบดีดีเอสไอ ได้พิจารณาข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบสวนและความเห็นของพนักงานอัยการ มีความเห็นแตกต่างจากพนักงานอัยการโดยเห็นว่าข้อเท็จจริงยังฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้กระทำความผิดตามที่ได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องไปแล้ว จึงได้มีความเห็นแย้งความเห็นของพนักงานอัยการให้ฟ้องนายอนันต์ ตามข้อกล่าวหาส่งพนักงานอัยการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างอัยการสูงสุดพิจารณาว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง อันเป็นความเห็นชี้ขาดตามกฎหมาย

7 คดีบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด การนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศโดยสำแดงเอกสารนำเข้าอันเป็นเท็จ (ต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งศาลอาญาได้มีคำพิพากษาสรุปได้ว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานสำแดงราคานำเข้าบุหรี่อันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ปรับเป็นเงินจำนวน 4 เท่า เป็นเงิน 1,225,990,617 บาท และยกฟ้องจำเลย 2 - 8 ทั้งนี้ สำหรับการนำเข้าบุหรี่ของนิติบุคคลฟิลลิป มอร์ริส ฯ ยังมีกรณีการนำเข้ายี่ห้อมาร์ลโบโร่ และแอลแอนด์เอ็ม จากบริษัท พีที ฟิลลิป มอร์ริส อินโดนีเซีย (PTPMI) โดยเป็นการนำเข้าระหว่างปี พ.ศ. 2543 - 2546 จำนวน 1,052 ใบขน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานจำเลย โดยคาดว่าจะมีคำพิพากษาประมาณเดือนมกราคม 2563