แอลกอฮอล์วอช จี้สอบธุรกิจน้ำเมาจับมือส่วนราชการขึ้นโลโก้เบียร์โฆษณาเย้ยกฎหมาย

แอลกอฮอล์วอชร้องมท.1 จี้สอบส่วนราชการจังหวัด จับมือธุรกิจเบียร์ยักษ์ใหญ่จัดคอนเสิร์ต เปิดลานเบียร์ส่งเสริมการตลาด ขึ้นโลโก้เบียร์โฆษณาเย้ยกฎหมาย

เมื่อวันที่ 18ธันวาคม 2562 เวลา10.30น.ที่กระทรวงมหาดไทย นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา (AlcoholWatch) พร้อมด้วย นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ (ครปอ.) และภาคีเครือข่าย กว่า 30 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยผ่านทาง นายพิชัยยา ตุระซอง ผอ.กลุ่มงานอำนวยการฯ สำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ เรียกร้องให้ตรวจสอบกรณี ค่ายเบียร์ยักษ์ใหญ่ เปิดแคมเปญฉลองครบรอบ 25 ปี เดินสายจับมือส่วนราชการจังหวัด จัดกิจกรรมแฝงด้วยคอนเสิร์ต ลานเบียร์ส่งเสริมการตลาด โฆษณาโลโก้เบียร์ผิดกฎหมาย โดยพบว่ากิจกรรมดังกล่าวมีผู้ว่าราชการจังหวัดรองผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมเอิกเกริก

นายชูวิทย์ กล่าวว่าจากกรณีมีข่าวที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชนและชาวบ้านในพื้นที่ส่งข้อมูลมาร้องเรียนกับเครือข่าย พบสองเหตุการณ์สำคัญที่เข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมายดังนี้

1.กิจกรรมเทศกาลดนตรี phangnga music fastival(จัดไปเมื่อวันที่ 13-14 ธันวาคม) มีศิลปินดังมาแสดงคอนเสิร์ตพ่วงด้วยลานเบียร์ขนาดใหญ่ และมีการร้องเรียนจากประชาชนว่า ทั้งสองวันมีเด็กและเยาวชนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในงานจำนวนมาก และที่สำคัญลานเบียร์ เป็นกิจกรรมส่งเสริมการขาย ที่ดำเนินไปเพื่อประโยชน์ทางการค้าของผู้ประกอบการ และมีการโฆษณาตราสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เข้าข่ายละเมิด พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในหลายมาตรา อาทิ การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้ที่อายุตำกว่า20 ปี การจัดคอนเสิร์ตลานเบียร์ ที่มีโฆษณาโลโก้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเมื่อวันที่13 ธันวาคม มีผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งหนึ่งไปร่วมเป็นประธานเปิดงานนี้อย่างเป็นทางการตามที่เป็นข่าว

และ2.การแถลงข่าวร่วมกันของรองผู้ว่าราชการจังหวัดอีกแห่งหนึ่งกับตัวแทนบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้ประกอบการร้านเหล้าผับบาร์มีการโฆษณาตราสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย และยังพบว่าในแผนผังที่จะจัดงานมีการเตรียมพื้นที่จัดคอนเสิร์ตลานเบียร์ขนาดใหญ่ และจะมีศิลปินชื่อดังมาแสดงดนตรีตลอดทั้งเทศกาล (21-31 ธันวาคมนี้)ทำให้เกิดคำถามตามมาถึงความเหมาะสมในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด และจะส่งผลถึงปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของหน่วยงานในกำกับหรือไม่ ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นการจัดงานของส่วนราชการร่วมกับบริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่ ที่กำลังทำแคมเปญครบรอบ25ปี สุ่มเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐจะตกเป็นเครื่องมือทำการตลาดของธุรกิจน้ำเมา และเข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ด้านนายคำรณ กล่าวว่า สองงานนี้ไม่ใช่งานแรกๆที่จัดขึ้น ก่อนหน้านี้ก็มีรูปแบบคล้ายกันนี้เกิดขึ้นมาแล้วในหลายจังหวัด เพื่อมิให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ถูกต้อง เครือข่ายฯ ขอแสดงจุดยืนและข้อเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย ดังนี้

1. เครือข่ายสนับสนุนการจัดกิจกรรมของทุกๆจังหวัดในการส่งเสริมการท่องเที่ยว กิจกรรมสตรีทฟู้ด เทศกาลดนตรี/อาหาร โอทอป กิจกรรมส่งเสริมอาชีพ กิจกรรมกระตุ้นการใช้จ่าย ฯลฯ แต่ทั้งหมดนี้ควรเป็นกิจกรรมที่ปลอดภัย ต่อเด็ก เยาวชนและครอบครัวรวมถึงนักท่องเที่ยว ไม่ควรแฝงด้วยการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพิ่มคนเมาบนท้องถนน ทั้งลานเบียร์ การโฆษณา การให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 20ปี เข้าไปกินดื่ม และอื่นๆ

2. ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเจตนา และเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ กรณีจังหวัดพังงาจัดเทศกาลดนตรี Phangnga music fastival เมื่อวันที่ 13-14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดไปเป็นประธานเปิดงาน เพราะในงานดังกล่าวเป็นคอนเสิร์ต ลานเบียร์ ซึ่งพบความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551ในหลายมาตรา รวมถึงอาจเข้าข่ายการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่มีใบอนุญาตด้วย และกรณีจังหวัดนครปฐม ที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมเป็นประธานการแถลงข่าวกับบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้ประกอบการร้านเหล้าในงานสตรีทฟู้ด “Food fun friends” เมื่อวันที่ 21พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีการจัดแผนผังเตรียมพื้นที่จัดคอนเสิร์ตลานเบียร์ขนาดใหญ่ไว้ตลอด11วัน (21-31 ธันวาคม นี้)

3.ขอให้มีตรวจสอบกรณีการจัดกิจกรรมของจังหวัดต่างๆ ที่อาจแฝงด้วยคอนเสิร์ต ลานเบียร์ เพื่อสื่อสารการตลาด ส่งเสริมการขายของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สุ่มเสี่ยงต่อความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ซึ่งมีหลายจังหวัดได้จัดไปแล้วและมีอีกหลายจังหวัดที่กำลังจะจัดขึ้นตามมาอีก โดยขอให้กระทรวงมีคำสั่งให้ชัดเจน ให้ทุกๆงานต้องจัดงานอยู่ในกรอบของกฎหมาย ป้องปรามการตกเป็นเครื่องมือของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มุ่งที่แสวงหาประโยชน์

4.ขอเรียกร้องให้บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกค่าย ทำการตลาดในกรอบของกฎหมายยุติการสื่อสารการตลาด กิจกรรมส่งเสริมการขายและการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย และไม่ควรใช้กลไกราชการ กลไกจังหวัดมาเป็นเครื่องมือทำการตลาดที่ขัดกับหลักกฎหมาย