จับอดีตพนักงานรถเข็นสัมภาระขโมยกระเป๋าผู้โดยสารที่สุวรรณภูมิ

ตำรวจท่องเที่ยวรวบอดีตพนักงานรถเข็นสัมภาระในสนามบิน ลักทรัพย์นักท่องเที่ยวขณะนั่งหลับที่สุวรรณภูมิ

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.62 พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายสุชาติ หรือบอย อายุ 41 ปี อดีตพนักงานเข็นรถสัมภาระภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้ต้องหาลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวเอมริกัน โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณสถานีแอร์พอตลิ้งค์ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิสมุทรปราการ

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจาก นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันว่า ได้เผลอหลับขณะนั่งพักรอเครื่องอยู่บริเวณเก้าอี้พักของผู้โดยสารชั้น 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อตื่นมาพบว่า กระเป๋าที่วางไว้บนรถเข็นสัมภาระได้หายไปซึ่งภายในมีเอกสารหนังสือเดินทางและของมีค่าหลายรายการ

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ต้องหาได้ลงบันไดเลื่อนมาจากชั้น 4 ก่อนที่จะเดินมาที่ผู้เสียหายนั่งหลับอยู่ก่อนก้มลงไปหยิบเอากระเป๋าของผู้เสียหายไป ก่อนที่จะรีบเดินลงมาที่บริเวณชั้น 1 ออกทางประตู 4 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกสืบสวนติดตาม จนกระทั่งในช่วงเย็นของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้พบเห็น ผู้ต้องหาเดินอยู่บริเวณชั้นใต้ดินของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณหน้าสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอตลิ้งค์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น ได้พบของกลางซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้เสียหายพร้อมด้วยหนังสือเดินทางที่ระบุชื่อผู้เสียหายอยู่ภายในตัวของชายคนดังกล่าว จึงคุมตัวมาทำการสอบสวน

ผู้ต้องหาสารภาพว่า เคยทำงานเป็นพนักงานเข็นรถสัมภาระภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และถูกไล่ออกไปเมื่อปลายปี 2559 เนื่องจากถูกจับได้ว่าดื่มสุราในขณะทำงาน โดยได้มาอาศัยหลับนอนอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ประมาณ 2 เดือนแล้วและอาศัยเก็บอาหารที่นักท่องเที่ยวเหลือทิ้งไว้มากินประทังชีวิตและอาศัยหลับนอนอยู่ที่เก้าอี้พักผู้โดยสารชั้นล่างของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

กระทั่งเมื่อวานนี้ได้ขึ้นไปเดินเล่นอยู่บนชั้น 4 ก่อนลงบันไดเลื่อนลงมาที่ชั้น 3 ได้พบผู้เสียหายนั่งหลับอยู่ โดยวางกระเป๋าคาดเอวไว้ที่รถเข็นสัมภาระ จึงก่อเหตุลักทรัพย์

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป