posttoday

ยกฟ้องคดีค้ามนุษย์ลวงค้าประเวณีสาวโมร็อกโก

11 ธันวาคม 2562

ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ยกฟ้อง ค้ามนุษย์ลวงค้าประเวณีสาวโมร็อกโก หลักฐานอัยการโจทก์ส่วนผู้เสียหาย น่าสงสัย

ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ยกฟ้อง ค้ามนุษย์ลวงค้าประเวณีสาวโมร็อกโก หลักฐานอัยการโจทก์ส่วนผู้เสียหาย น่าสงสัย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีค้ามนุษย์หญิงสาวโมร็อกโก คดีหมายเลขดำ คม.64/2560 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายไมเคิล เพิร์ล (Michael Pearl) อายุ 47 ปี ชาวซูดาน สัญชาติออสเตรเลีย , นายก๊อดซานหรือจาร์สิน วาคีย์  (Ghassan Wakej) สัญชาติซีเรีย อายุ 38 ปี ,นายฉลาด หรือชัยรัตน์ นราจันทร์ อายุ 64 ปี , นายอารีย์ หรือชยากร เอี่ยมสารี อายุ 47 ปี และนางฮานา เตายูรี อายุ 39 ปี สัญชาติโมร็อกโก เป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณีฯ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ม.4,6,9,10,11,52 กับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ม.4,9,11 และประมวลกฎหมายอาญา ม.283,310

โดยอัยการยื่นฟ้องและนำสืบว่า เมื่อระหว่างวันที่ 11 ต.ค.59 - 26 มี.ค.60 นายไมเคิล จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการดรีมดิสโก้ บริเวณชั้น 4 โรงแรมซีนิท ถ.สุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กทม. ร่วมกับจำเลยอื่นๆ วางแผนและแบ่งหน้าที่กันทำ ใช้กลอุบายหลอกลวงเป็นธุระจัดหาพาหญิงสาวชาวโมร็อกโกที่เป็นผู้เสียหายรวม 4 คน มาค้าประเวณีโดยหลอกลวงว่าให้มาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในประเทศไทย มีรายได้ดี มีความเป็นอยู่สบาย แต่พวกจำเลยกลับบังคับหน่วงเหนี่ยวกักขัง ข่มขืนใจผู้เสียหายให้ค้าประเวณี เหตุเกิดที่แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. และประเทศโมร็อกโก เกี่ยวพันธ์กัน ชั้นพิจารณาจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 ก.ค.61ให้จำคุก นายไมเคิล จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของผับ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ม.4 , 6(1) , 9 วรรคหนึ่งและวรรคสอง , 10 วรรคหนึ่ง , 11 , 52 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ม.4 , 9 วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา ม.283 วรรคแรก , 310 วรรคแรก ประกอบ ม.83 และ พ.ร.บ.พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ม.4,11 วรรคหนึ่ง รวมจำคุก 19 ปี

ส่วนนายก๊อดซานหรือจาร์สิน ชาวซีเรีย จำเลยที่ 2 , นายฉลาด จำเลยที่ 3 , นายอารีย์ จำเลยที่ 4 และนางฮานา ชาวโมร็อกโก จำเลยที่ 5 จำคุกคนละ 16 ปี ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ม.4 , 6(1) , 9 วรรคหนึ่งและวรรคสอง , 10 วรรคหนึ่ง , 11 , 52 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ม.4 , 9 วรรคหนึ่ง และประมวลกฎหมายอาญา ม.283 วรรคแรก , 310 วรรคแรก ประกอบ ม.83

ต่อมา จำเลย ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งวันนี้ศาล เบิกตัวจำเลยทั้งหมดมาจากเรือนจำเพื่อฟังคำพิพากษา

โดย ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวน ประชุมปรึกษากันแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ในส่วนคำเบิกความของผู้เสียหายที่ 1 ที่อ้างถูกยึดหนังสือเดินทางนั้นยังมีข้อพิรุธสงสัย ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีการยึดหนังสือเดินทางของผู้เสียหายที่ 1 แต่อย่างใด โดยผู้เสียหายทั้งหมดยังคงเดินเข้าออกร้านได้ตามปกติ และยังสามารถเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปเที่ยวยังร้านใกล้เคียงได้อีก ขณะที่ยังพบว่าผู้เสียหายที่ 1 ยังสามารถเดินทางไปทำงานในไนต์คลับลักษณะเดียวกับผับจำเลยที่ 1 ที่ จ.ภูเก็ตได้อีก

นอกจากนี้ผู้เสียหายอื่นๆ ก็ไม่ได้เรียกร้องขอการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ จึงแสดงว่าสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังมีข้อพิรุธสงสัยว่าจำเลยทั้งห้า กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลอุทธรณ์จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยทั้ง ห้า พิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการระหว่างการอ่านคำพิพากษา ปรากฏว่า นางฮานา จำเลยที่ 5 มีอาการโรคลมชักกำเริบด้วย เนื่องจากเกิดความตื่นเต้นในการฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ซึ่งระหว่างมีอาการลมชักเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นกระทั่งอาการดีขึ้น จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อทำการรักษาพยาบาลและปล่อยตัวต่อไป

อย่างไรก็ดี ในการฟังคำพิพากษาวันนี้ มีตัวแทนจากสถานทูตโมร็อกโก เข้าสังเกตการณ์ติดตามผลคดีด้วย