posttoday

ลุ้น 12 ธ.ค. ศาลอุทธรณ์ตัดสิน "คดีเปรมชัย-พวก"ล่าเสือดำ

11 ธันวาคม 2562

ศาลอุทธรณ์ ภาค 7 นัดฟังคำพิพากษา คดี “เจ้าสัวเปรมชัย” พร้อมพวก ล่าเสือดำ ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร วันที่ 12 ธ.ค. นี้

ศาลอุทธรณ์ ภาค 7  นัดฟังคำพิพากษา คดี “เจ้าสัวเปรมชัย” พร้อมพวก ล่าเสือดำ ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร วันที่ 12 ธ.ค. นี้

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.  จากกรณีที่ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก นำกำลังเข้าจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดวันที่ 4-6 ก.พ.61 โดยอัยการจังหวัดทองผาภูมิเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กับพวก ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 ใน 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต 5.ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย 6.ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ หลังจากผ่านการสอบพยานโจทก์และจำเลยไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.61 ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยได้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีนี้ต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค.62 จากนั้นศาลจังหวัดทองผาภูมิได้พิพากษาคดีไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค.62 ดังนี้ จำเลยที่ 1 นายเปรมชัย กรรณสูต รวมโทษจำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา ถูกสั่งฟ้อง 6 ข้อหา ยกฟ้อง 1 ข้อหา ดังนี้ 1.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษา จำคุก 6 เดือน 2.ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ 3.ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 8 เดือน 4.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 2 เดือน

จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ รวมโทษจำคุก 13 เดือน ถูกสั่งฟ้อง 7 ข้อหา ยกฟ้อง 3 ข้อหา ดังนี้ 1.ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน 2.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน 3.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 4.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 4 เดือน

จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน จำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอรอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี ถูกสั่งฟ้อง 5 ข้อหา  ยกฟ้อง 3 ข้อหา คือ 1.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 2.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท)

จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ รวมโทษจำคุก 2 ปี 17 เดือน ถูกสั่งฟ้อง 8 ข้อหา โดยไม่มีข้อหาใดถูกยกฟ้อง ประกอบด้วย 1.ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน 2.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน 3.ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ 4.ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 1 ปี 5.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกับ ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย(กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 4 เดือน 6.ข้อหาพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำคุก 4 เดือน 7.ข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำคุก 1 ปี

ค่าเสียหายให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหาย 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 4 ก.พ.2561 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

และในวันเดียวกัน นายเปรมชัย พร้อมพวกได้ยื่นขอประกันตัว โดยผู้พิพากษาหัวหน้าจังหวัดทองผาภูมิ อนุญาตให้ประกันตัว นายเปรมชัย จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คนละ 400,000 บาท และจำเลยที่ 4 จำนวน 500,000 บาท เนื่องจากระหว่างการพิจารณาคดีจำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาต

ต่อมาวันที่ 24 พ.ค. 2562 อัยการศาลสูงจังหวัดกาญจนบุรียื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ นายเปรมชัย กรรณสูตร จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานเป็นตัวการให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า (เสือดำ) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ศาลจังหวัดทองผาภูมิวินิจฉัยว่าเป็นผู้สนับสนุนอุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันเก็บหาของป่าภายในเขตป่าสงวน อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษายกฟ้อง อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า (ไก่ฟ้าหลังเทา) เป็นการกระทำหลายกรรม ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่า เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน

นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยขอไม่ให้ลดโทษ เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ถอนคำให้การเดิมเป็นให้การรับสารภาพ อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษายกฟ้องข้อหานี้ อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าและมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษายกฟ้องข้อหานี้ อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว และอุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน

นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าและมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(เสือดำ)ไว้ในครอบครอง ศาลจังหวัดทองผาภูมิยกฟ้อง///อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำและซากไก่ป่า(ไก่ฟ้าหลังเทา) เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกัน ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่ลดโทษ เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ถอนคำให้การเดิมและรับสารภาพ อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว

อุทธรณ์ให้ลงโทษสูงขึ้น ฐานความผิดพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์ฯ ศาลจังหวัดทองผาภูมิลงโทษจำคุก 4 เดือน โจทก์เห็นว่าน้อยไป อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน และอุทธรณ์ขอให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 3,012,000 บาท เต็มตามฟ้องโจทก์ นอกจากนี้ยังอุทธรณ์ขอให้ริบเกลือป่น ถุงเกลือป่น (ถุงเปล่า) ถุงดำ และรถยนต์ แบบนั่งสองตอนของกลางเนื่องจากเห็นว่าเป็นทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำผิด (ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาให้คืน)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุด ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.219/2561 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.63/2562 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ (โจทก์) นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4 คน (จำเลย) ในเวลา 09.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.62)