posttoday

“ภูวนัย ภัทรโภคิณ” สตาร์ทอัพอสังหาฯ เบอร์ต้นผู้มาจากเซียนไพ่บอด

03 ธันวาคม 2562

เด็กกำพร้า ขาดทุนทรัพย์และการยอมรับจากครอบครัว เพียรอ่านหนังสือจนจบวิศวะ 3 ปีให้หลังเป็นนักอสังหาฯ ระดับท็อป 4 ปีต่อมาสร้างบริษัทสตาร์ทอัพ ‘Livinginsider’ เว็บไซต์ประกาศขาย-เช่า ‘บ้านและคอนโด’ ดีที่สุดของเมืองไทยเว็บไซต์หนึ่งตอนนี้

เด็กกำพร้า ขาดทุนทรัพย์และการยอมรับจากครอบครัว เพียรอ่านหนังสือจนจบวิศวะ 3 ปีให้หลังเป็นนักอสังหาฯ ระดับท็อป 4 ปีต่อมาสร้างบริษัทสตาร์ทอัพ ‘Livinginsider’ เว็บไซต์ประกาศขาย-เช่า ‘บ้านและคอนโด’ ดีที่สุดของเมืองไทยเว็บไซต์หนึ่งตอนนี้        

*****************************

โดย…รัชพล ธนศุทธิสกุล

โดยมีเพจวิวสูงถึงเดือนละ 2 ล้าน 5 แสน มียูสเซอร์เข้าใช้งานกว่า 6 แสนคนต่อเดือน 

ใครที่กำลังท้อแท้ ผิดหวังหรือล้มเหลว มุมมองความคิดนี้อาจจะช่วยคุณได้

และนี่คือเส้นทางของ ตาล-ภูวนัย ภัทรโภคิณ” นักธุรกิจหนุ่มในวัย 37 ปี ค่อยๆ เติบและโตพลิกชีวิตจากศูนย์ น็อคเอาท์ความล้มเหลวชีวิต สูดลมหายใจผู้ชนะธุรกิจด้วย ‘ไพ่’ ‘ฟองน้ำ’ และ ‘การมอง’

“ภูวนัย ภัทรโภคิณ” สตาร์ทอัพอสังหาฯ เบอร์ต้นผู้มาจากเซียนไพ่บอด

สับศูนย์ให้เป็นร้อย

“Livinginsider เปิดปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว ถือว่าเป็นเบอร์ต้นของเมืองไทย เดือนหนึ่งมีคนเข้าใช้ 6 แสนต่อเดือน ส่วนเพจวิวประมาณเดือนละ 2.5 ล้าน คือเข้ากูเกิลเสิร์ชหา เช่าบ้าน ขายคอนโด เป็นต้องเจอ” สตาร์ทอัพหนุ่มเชียงใหม่วัย 37 กล่าวสั้นๆ อย่างคนเข้าใจความสำเร็จในวันนี้ว่าเรื่องงานหรือชีวิต การที่จะ ‘ประสบความสำเร็จ’ ต้องอาศัยทั้งอุปสรรคปัญหาและความเคี่ยวกร่ำหล่อหลอมจนเกิดเป็นภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่ง

“ชีวิตมันไม่มีทางลัด จะสร้างตัวสร้างชีวิต ก็ต้องโดนกดดันกันมาก่อน เหมือนเป็นภูมิคุ้มกันร่างกาย” เขาบอก ก่อนจะเล่าต่อถึงภูมิคุ้มตัวเองได้เริ่มขึ้นเมื่อตอนเขาอายุได้เพียงแค่ 3 ขวบ หลังพ่อเขาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง แม่ซึ่งเป็นแม่บ้านไม่ได้ทำงานจึงไม่มีเงินเลี้ยงดู เขาเลยต้องไปอาศัยอยู่กับน้าสาวที่โคราช

“เจอแม่ 2 ปี หน ก็เลยเป็นเด็กค่อนข้างมีปัญหา มองว่าไม่มีใครรัก เวลาทำงานบ้านเสร็จก็จะไปเข้าห้องเอาหนังสือเรียนลูกพี่ลูกน้องที่เรียนเขาเรียนก่อนมาให้วาดรูปเล่นตามเรื่อยจินตนาการณ์ แต่พอวาดบ่อยเข้า มันผ่านตาก็กลายเป็นอ่าน ถึงเวลาสอบผลได้ที่ 1 จากไม่รู้ว่าการยอมรับเป็นไง เพื่อนๆ ก็ชมชอบ ให้มาสอน น้าก็เอาไปบอกลูก รู้สึกว่าการเรียนเก่งมันทำให้คนยอมรับ อย่างน้อยๆ ยอมรับในเรื่องของการเรียนก็ยังดี”

“ภูวนัย ภัทรโภคิณ” สตาร์ทอัพอสังหาฯ เบอร์ต้นผู้มาจากเซียนไพ่บอด

ตั้งแต่นั้นในระดับชั้นประถมยันมัธยมปลาย ภูวนัยสอบได้ที่ 1 ตลอดและได้โควตาวิศวะเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตร วิทยาเขตบางเขน และระยะเวลา 4 ปี ช่วง พ.ศ. 2545 จบออกมากินเงินเดือน 15,000 บาท ในทันที

ขณะที่ปีต่อมาได้ผันตัวเองเป็นนักอสังหาริมทรัพย์และในเวลาแค่ 3 ปีก้าวขึ้นระดับมือต้นๆ มีคอนโดหลัก 3-5 ล้านปล่อยขายมากสุดถึง 30 แห่ง ก่อนที่เมื่ออายุ 26 ได้ควบตำแหน่งงานที่ปรึกษาบริษัทกว่า 4 แห่ง โดยหนึ่งในนั้นได้เข้าตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย  

“เล่นเกมไหน เล่นจริงจัง เล่นจนกว่าจะเก่ง คนอื่นกลับบ้านไปนอน แต่เราเข้าเว็บตลาดอสังหาฯ เข้าอ่านทุกวัน เหมือนคนเล่นพระต้องไปดูพระทุกวัน เราดูทุกวันจนรู้จักทั่วกรุง ดังนั้นถามว่าเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ยังไง คือเราเรียนรู้หาวิธี

“คนเรามันก็เหมือนไพ่โปกเกอร์ ผู้เล่นมี 2 แบบ แจกไพ่มาพร้อมชนะเป็นพวกมีบุญ คนรวย และพวกไพ่ขี้เหร่ พร้อมจะแพ้เปรียบได้คนจน แต่เราสามารถที่พลิกได้ ไม่ปล่อยไปตามสถานการณ์ ฝึกมันทุกตาไปเรื่อยๆ วันหนึ่งคนที่ไพ่ดีก็ชนะไม่ได้ เพราะเก่งมากพอ”

“ภูวนัย ภัทรโภคิณ” สตาร์ทอัพอสังหาฯ เบอร์ต้นผู้มาจากเซียนไพ่บอด

ทำตัวเป็น ‘ฟองน้ำ’

ซับสิ่งที่ดีพร้อมจะซึมรับรู้สิ่งต่างๆ

ภูวนัยเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพจากการเป็นผู้ใช้ในเว็บไซต์ และนำมาพัฒนาต่อยอดให้ไวกว่า ไม่มีแฮงค์ค้างหรือขั้นตอนการประกาศเช่า-ขายให้ยุ่งยาก สามารถทำเสร็จได้ใน 1 นาที ที่สำคัญราคายังถูกว่าถึง 25 เท่า

“เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ของไทยตอนนั้นมีเว็บเดียว อีก 2-3 เว็บเป็นของสิงค์โปร รัสเซีย แต่แพงเวอร์” เขาเผย จุดเริ่มต้นใหม่หลังประสบความสำเร็จในชีวิตการเรียนและการงานในส่วนหนึ่ง

ระดับที่สูงขึ้นในฐานะ ‘เจ้าของกิจการผู้ก่อตั้ง’ นั้นไม่ง่ายจากที่เคยทำงานสบาย เข้างานบ่ายโมงกลับบ้านบ่ายสามโมง การลงทำเว็บไซต์ประกาศขาย-เช่า แค่จ้างๆ คนทำงานไอทีมาทำเดี๋ยวก็โตของมันเอง “ซึ่งมันผิดถนัด” ภูวนัยยิ้มเขิน “เราเข้าใจภาพรวมทั้งหมดของอสังหาฯ แต่เทคนิคเราไม่รู้”

ปัญหาแรกเลยคือการหาโปรแกรมเมอร์เก่งๆ ซึ่งส่วนมากเป็นพนักงานอยู่บริษัทใหญ่ๆ ดีๆ กันหมดแล้ว ปัญหาต่อมาคือดีไซน์โครงสร้างต่างๆ ของแผนกงานเพื่อพาบริษัทเดิน เรื่องของการควบคุมพนักงาน ฯลฯ จากที่กินอิ่มนอนหลับสบายก็นอนตี 2-3 ติดต่อกันถึงเป็นปีๆ

“มีไอเดียดีอย่างเดียวไม่พอรันให้บริษัทรอด ให้คิดว่าเป็นเพียงแค่แพชชั่น ใครก็มีไอเดียได้แต่จะทำได้จริงหรือเปล่า  100 % ทำได้จริงแค่ 5 % สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการเวลา หรือวินัย ตั้งเวลาและกำหนดให้เสร็จ ถ้าเซตได้ชัดเจน จะต้องเปิดร้านวันนี้ เช้านี้ต้องสำรวจราคาตลาด คู่แข่งมีไหม มาจะมันจะพามาขั้น ‘วิญญาณแห่งความเป็นเจ้าของ’ เป็นขั้นสูงของระดับ CEO การทำงานจะไม่มองแค่วางแผนวันต่อวัน การผ่านการเป็นพนักงาน การก้าวขึ้นระดับหัวหน้า ใช้เวลา 5-10 ปี ออกมาทำธุรกิจเอง จะช่วยให้มองเห็นภาพและรู้ทั้งหมดที่จะขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งเราจะวางแผนได้ 3 เดือน 6 เดือน หรือข้ามปี”

“ภูวนัย ภัทรโภคิณ” สตาร์ทอัพอสังหาฯ เบอร์ต้นผู้มาจากเซียนไพ่บอด

เหมือนการออกกำลังกาย ถ้าไม่สม่ำเสมอก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นการนำทฤษฏีเล่นเกมที่เล่นจนกว่าจะเก่งกลับมาใช้อีกครั้งก็ไม่พอ ต้องผนวกเข้ากับหลักชีวิตแบบ ‘ฟองน้ำ’ ซับสิ่งที่ดีและพร้อมจะซึมรับรู้สิ่งต่างๆ ถึงได้ผ่านพ้นอย่างปัจจุบัน

“เราต้องทำตัวเหมือนฟองน้ำ คนเรามันปัญหากันทุกคน โดยมี 2 ข้อใหญ่ๆ คือ งาน ธุรกิจและความรัก แต่มีหลักการง่าย ต้องลืมให้ไวแล้วไปต่อ ‘ช่างมันแล้วก็หลับให้ได้’  แค่นั้นเอง ฟังเหมือนง่ายแต่ทำยาก เพราะสมองคนเราทำงานตลอด ทำให้เราคิดฟุ้งซ่านไปหมด และพอคิดนอนไม่หลับร่างกายเราก็พังตามไป ก็พากันพังหมดยิ่งขึ้น

“ให้บริหารจัดการสมองใหม่ จัดลำดับ ถึงจุดจะคิดอะไรให้คิดเอาเฉพาะเรื่องนั้น  เรื่องอื่นที่ต่อให้เป็นปัญหาแต่จัดไว้แล้วอยู่ในอันดับหลังก็ต้องอยู่อันดับนั้น เก็บใส่ลิ้นชักไว้ ถึงเวลาค่อยเปิดมาคิดและแก้ปัญหา ปิดร่างกายมันไว้ ตื่นมาค่อยคิดใหม่ มันก็จะแก้ปัญหาเหล่านี้ไปได้”

“ภูวนัย ภัทรโภคิณ” สตาร์ทอัพอสังหาฯ เบอร์ต้นผู้มาจากเซียนไพ่บอด

'มอง' วิกฤตคือโอกาส

อีกสิ่งหนึ่งที่จะตัดกำดักหลุมพรางให้ชีวิตดิ่ง อดีตเด็กกำพร้าผู้มาจากศูนย์บอกว่า คือ ‘การมองวิกฤตให้เป็นโอกาส’

โดยได้ยกตัวอย่างเรื่องของ ‘เศรษฐกิจ’ ที่หลายคนมองว่าย่ำแย่นั้น จริงๆ หากย้อนกลับไปในอดีตทุกๆ ช่วงเวลาต่างมีปัญหาด้วยตัวเองมันเองทั้งสิ้น “เป็นวัฏจักร ขึ้นอยู่กับวิธีคิด เรามองวิกฤตเป็นโอกาสได้เสมอ เหมือนที่เล่าเรื่องชีวิต ถ้าคิดว่าถ้าพ่อไม่ตาย ได้อยู่กันกับครอบครัว ก็คิดว่าคงไม่มีวันนี้ แต่เรามาวันนี้ได้เพราะโอกาสแบบนั้น” 

ตัวอย่างที่ดีในข้อคิดนี้ถอยหลังไป 6-7 ปีก่อน ประเทศยักษ์ใหญ่อเมริกาเองต้องพบ ‘วิกฤติสินเชื่อซับไพรม์’ (subprime mortgage crisis) ผู้กู้ยืมนั้นกู้ยืมสินเชื่อที่เกินกำลังโดยคิดว่าตนจะสามารถปรับโครงสร้างเงินกู้ได้โดยง่าย แต่ทว่าการปรับโครงสร้างเงินกู้กลับเป็นไปได้ยากขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยเริ่มสูงขึ้นและราคาบ้านเริ่มต่ำลง

ส่งผลให้ต่อมาคนอเมริกาแห่ขายบ้านที่ถือครองต่ำกว่าราคากันกว่าครึ่งที่ซื้อเป็นแถว ซึ่งในระหว่างนั้นเด็กจบใหม่คนหนึ่งได้เห็นมองถึงลู่ทางทำธุรกิจสร้างแอพพลิเคชั่น ‘เช่าบ้าน’ ขึ้น และทุกวันนี้ธุรกิจสตาร์ทอัพนี้จัดอยู่ในระดับยูนิคอร์น มีมูลค่ากว่าแสนล้านบาท

“ภูวนัย ภัทรโภคิณ” สตาร์ทอัพอสังหาฯ เบอร์ต้นผู้มาจากเซียนไพ่บอด

“แรกๆ ใครก็คิดว่าบ้า บ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัวหวงห้าม ใครจะให้เช่า แต่มีคนอเมริกาเยอะมากมีบ้านมากกว่า 1 หลัง พอทำขึ้นมาคนสนใจมาก เพราะคนได้ทำเลที่ดี ได้สัมผัสประสบการณ์ถึงถิ่นและแถมยังได้ราคาที่ถูกกว่า 50% ที่ไปเช่าโรงแรม”

“ทุกอย่างต้องลองสร้าง ทดสอบ และก็ไป” อดีตวิศวกรวัย 37 กล่าวสิ่งสุดท้ายที่ต้องผสมผสานและเชื่อมโยงกันทั้ง 3 อย่าง ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งเรื่องธุรกิจและชีวิตให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ประสบความสำเร็จสูดลมหายใจผู้ชนะทั้งการงาน การเรียน และความรัก

“ภูวนัย ภัทรโภคิณ” สตาร์ทอัพอสังหาฯ เบอร์ต้นผู้มาจากเซียนไพ่บอด

..........................................................................

เคล็ดลับทำธุรกิจให้รวย

1.เรียนรู้การเป็นลูกน้องก่อนอย่างน้อยๆ 5-10 ปี เพื่อเจอความกดดันและเรียนรู้โครงสร้างบริษัท เพราะเราคนเดียวไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ แต่ต้องประกอบด้วยหลายฝ่ายที่จะนำพาให้ธุรกิจไปสำเร็จ

2.อย่าคิดว่าจะทำอะไรถึงรวย ไม่มีเจ้าสัวคนไหนคิดมาก่อนว่าจะทำธุรกิจนี้แล้วรวย เขาล้วนแต่ต่อยอดจากสิ่งที่เราทำได้ดี เช่นห้างโรบินสัน เริ่มจากขายกางเกงยีนส์มาก่อน แล้วลูกค้าอยากซื้อเสื้อ ก็ต่อยอดจากการเจอปัญหานี้ แก้ปัญหาให้เขาได้ มันก็ต่อยอดตอบโจทย์ การขยายความมั่งคั่งจะมาจากปัญหาที่เราแก้ให้ลูกค้า

3.เก็บเงินให้ได้ 1 ล้าน เพราะการเริ่มต้นธุรกิจให้สำเร็จต้องมีวินัย การฝึกเก็บเงินเพื่อให้เกิดความรอบคอบในการลงทุน เนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่มากทำให้เราก่อนจะศึกษาหรือทำอะไรจะค้นและหาข้อมูล รวมไปถึงลงพื้นที่คิดวิเคราะห์ด้วยตัวเองอย่างจริงจัง ซึ่งนั้นจะนำมาสู่ประตูแห่งความสำเร็จในที่สุด