posttoday

เผยมีผู้ฝ่าฝืนกฎพกมีดเข้าศาลอีก 3 แห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน

20 พฤศจิกายน 2562

โฆษกศาลยุติธรรมเผยมีรายงานตรวจพบมีผู้พกมีดเข้าศาลอีก 3 แห่ง ทุกคดีล้วนมีความผิดมีโทษทั้งจำคุกรอลงอาญาและปรับ เตือนประชาชนห้ามพกอาวุธขึ้นศาลเด็ดขาด

โฆษกศาลยุติธรรมเผยมีรายงานตรวจพบมีผู้พกมีดเข้าศาลอีก 3 แห่ง ทุกคดีล้วนมีความผิดมีโทษทั้งจำคุกรอลงอาญาและปรับ เตือนประชาชนห้ามพกอาวุธขึ้นศาลเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงข้อมูลการตรวจค้นอาวุธเข้มงวดตามมาตรรักษาความปลอดภัยว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้รับรายงานจากศาลจังหวัดชัยนาทว่า เจ้าหน้าที่ รปภ.ของศาลได้ควบคุมตัวนายณรงค์พล ชาติรังสรรค์ พกพาอาวุธมีดคัทเตอร์ เข้ามาในบริเวณศาล จากการสอบถามนายณรงค์พลให้การยอมรับ มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) ให้จำคุก 1 เดือน รับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งจำคุกเป็นเวลา 15 วัน ขณะที่ศาลให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน 15 วัน

นอกจากนั้น ในวันที่ 20 พ.ย.ได้รับรายงาน จากศาลจังหวัดอุทัยธานีว่า เจ้าหน้าที่ รปภ.ได้ตรวจพบอาวุธมีดพกจากจากโจทก์คดีบุกรุกและขับไล่ กับนายประกันอาชีพที่มาศาล รวม 3 ราย จึงได้ตั้งสำนวนคดีละเมิดอำนาจศาลแล้วเช่นกัน ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก นายสมพร เพ็งเมือง เป็นเวลา 15 วันปรับ 500 บาท , นางอุไร พัฒนพันธ์ จำคุก 10 วัน ปรับ 500 บาท และนายพงศ์พัทธ์ สิงห์เถื่อน จำคุก 20 วันปรับ 500 บาท แต่ทั้งสามศาลก็ให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี ขณะเดียวกันก็ให้ผอ.ประจำศาลทำหนังสือร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการพกพาอาวุธด้วย โดยเบื้องต้นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุทัยธานี ได้รายงานให้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 รับทราบเหตุการณ์แล้ว

ทั้งนี้ ยังได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำจุดตรวจอาวุธหน้าอาคาร ศาลแขวงพิษณุโลกว่า ได้ตรวจพบอาวุธมีดพับในกระเป๋าของนายสมชิด ชำนิจ จำเลยในคดีอาญาที่เดินทางมารายงานตัว ที่ครบกำหนดเวลาขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา (คดีหมายเลขแดง 2130 /2561) เจ้าหน้าที่ รปภ.จึงได้ควบคุมตัวส่งให้ ผอ.ประจำศาลฯ ตั้งสำนวนคดีละเมิดอำนาจศาล ศาลแขวงพิษณุโลก พิพากษาลงโทษจำคุก 5 วัน และปรับ 250 บาท โดยจำคุกให้โทษรอลงอาญากำหนด 1 ปี

นายสุริยัณห์ กล่าวว่า ช่วงนี้มีการจับกุมเหตุพกอาวุธและสิ่งของต้องห้าม เข้าในบริเวณศาลบ่อยครั้ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีความตื่นตัวต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ที่กำชับมาตรการรักษาความปลอดภัย และให้รายงานเหตุมายังส่วนกลางด้วยความรวดเร็วฉับไว

“ได้เน้นย้ำไปว่าหากเป็นเหตุฉุกเฉินเร่งด่วนให้ทุกศาล รีบรายงานโดยยังไม่ต้องคำนึงถึงแบบแผนการรายงานเป็นอันดับแรก เพื่อจะได้มีเวลาในการแก้ไขปัญหาและลดความเสี่ยง หลังจากนั้นค่อยรายงานตามระเบียบต่อไป พร้อมฝากย้ำถึงประชาชนที่เดินทางมาติดต่อราชการศาลว่า ขอให้ปฏิบัติตามระเบียบของศาล อย่าพกอาวุธ หรือสิ่งของต้องห้ามมาหากตรวจพบอาจจะโดนคดีละเมิดอำนาจศาล และข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้” โฆษกศาลยุติธรรมกล่าว