posttoday

เตือน "ตากข้าวบนถนน" ทำให้เกิดอุบัติเหตุต้องชดใช้แถมผิดกฎหมายหลายมาตรา

11 พฤศจิกายน 2562

กรมทางหลวงชนบทเตือนชาวนางดนำข้าวมาตากบนถนน ชี้หากเกิดอุบัติเหตุต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง แถมยังผิดกฎหมายหลายมาตรา

กรมทางหลวงชนบทเตือนชาวนางดนำข้าวมาตากบนถนน ชี้หากเกิดอุบัติเหตุต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง แถมยังผิดกฎหมายหลายมาตรา

สำนักกฎหมาย กรมทางหลวงชนบท โดย นายเอกพงศ์ สุรพันธ์พิชิต หัวหน้างานบริการวิชาการด้านกฎหมาย สำนักกฎหมาย กรมทางหลวงชนบท ได้เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายกรณีผู้ขับขี่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุเนื่องจากมีผู้นำข้าวเปลือกมาวางตากแดดบนถนน โดยมีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้

จากเหตุการณ์ที่มีผู้ขับขี่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุเนื่องจากบนถนนมีผู้นำข้าวเปลือกมาวางตากแดดไว้ยาวตลอดช่องจราจรนั้น ในส่วนความรับผิดทางแพ่งในเรื่องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ผู้เสียหายมีสิทธิเรียกร้องเอาจากผู้ที่นำข้าวเปลือกมาตากได้

และนอกจากนั้น ผู้นำข้าวเปลือกมาวางกองเพื่อตากแดดบนทางจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต ยังมีความผิดทางอาญาด้วย โดยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกพ.ศ.2522 มาตรา 114 วรรคหนึ่งมีโทษตามมาตรา 148 ระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2545 มาตรา19 มีโทษตามมาตรา 57 ระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 38 วรรคหนึ่ง มีโทษตามมาตรา 72 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในกรณีที่การกระทำครั้งเดียวกันนั้นเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 กำหนดหลักการไว้ให้ลงโทษตามกฎหมายที่มีอัตราโทษสูงสุดจึงต้องลงโทษตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535

โดยมาตรา 38 วรรคหนึ่งแห่ง พ.ร.บ.ทางหลวงพ.ศ. 2535 บัญญัติว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง แขวนวาง หรือ กองสิ่งใดในเขตทางหลวงในลักษณะ ที่เป็นการกีดขวางหรืออาจเป็นอันตรายแก่ยานพาหนะ หรือในลักษณะที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางหลวงหรือความไม่สะดวกแก่งานทาง

เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการทางหลวงหรือ ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวงในการอนุญาต ผู้อำนวยการทางหลวง หรือ ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวงจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้"

แม้กฎหมายจะกำหนดให้สามารถขออนุญาตได้ก็ตาม แต่การจะนำสิ่งใดมาวางกองบนถนนในลักษณะดังกล่าวย่อมจะเกิดผลกระทบต่อการใช้ทางสัญจรไปมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงเป็นกรณีที่ไม่อาจอนุญาตได้ จึงขอย้ำเตือนไปยังท่านเกษตรกรทุกท่าน ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งอาจเป็นคนในครอบครัวของท่านเองด้วย เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดความสูยเสียตามที่เป็นข่าว