'ปารีณา'ออกโรงนำผู้ถูกจับลิขสิทธิ์9รายแจ้งความเอาผิดคืน

ส.ส.ราชบุรีพปชร."ปารีณา-กุลวลี"พาผู้ถูกจับลิขสิทธิ์ 9 ราย แจ้งความเอาผิดลิขสิทธิ์ ที่ สภ.เมืองราชบุรี

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2562 น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ และน.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้นำผู้ถูกจับลิขสิทธิ์ 9 ราย เดินทางมาแจ้งความ กับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี หลังถูกเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์จับกุมจนเสียเงินไปจำนวนมาก โดยน.ส.ปารีณา กล่าวว่า มีชาวบ้านมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือเรื่องคดีละเมิดลิขสิทธิ์ที่กำลังเป็นข่าว จึงได้พากันมาแจ้งความ เพื่อมาดูความชัดเจนว่ามีกระบวนการล่อให้กระทำความผิดแล้วใช้ช่องโหว่กฎหมายที่จะล่อซื้อ หรือมีพฤติกรรมกับเด็กที่โดนเรื่องกระทงอายุ 15 ปี จึงมาขอความชัดเจนของตำรวจถึงการสืบสวนสวน ว่าตัวแทนของลิขสิทธิ์เป็นคนที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

"ที่มาวันนี้จะโดน กระทำ ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน จึงขอให้ทุกคนที่เป็นผู้เสียหา ดำเนินคดีเอาผิดกลับคืน หวังว่าผู้ต้องหา จะคืนเงินให้กับทุกคนที่เสียหาย ฝากบอกผู้เสียหายที่โดนเรื่องนี้ขอให้มาแจ้งความเพื่อเป็นอุทธาหรณ์ จะได้เป็นบรรทัดฐานให้กับทั่วประเทศด้วย"น.ส.ปารีณา กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมือง กล่าวว่า ทาง ส.ส.ได้ประสานมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะนำตัวคนที่เคยถูกจับเรื่องลิขสิทธิ์ในห้วงที่ผ่านมา เพื่ออยากให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จริงหรือไม่ หรือได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของลิขสิทธิ์มาดำเนินการ เบื้องต้นทางส.ส.ได้แจ้งมา 9 ราย ที่สะดวกมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ในส่วนของรองผู้กำกับ หัวหน้างานสอบสวนได้ตั้งทีมพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำและอำนวยความสะดวกและจะดำเนินการทำหนังสือสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ที่แท้จริงและจะสอบถามถึงการได้มอบอำนาจให้แก่ผู้ใดดำเนินการเรื่องลิขสิทธิ์เป็นไปตามกระบวนการตามขั้นตอน

ขณะที่ นายพลพณ พรมมา ชาวบ้าน อ.เมือง จ.ราชบุรี กล่าวว่า หลานโดนจับเรื่องขายชุดนอนเป็นรูปเป็ด ซึ่งได้มีการนำมาให้ดูช่วงที่มาจับนั้น มันเป็นคนละแบบกันที่ซื้อมาใส่เอง 2 ชุด ใส่เอง 1 ชุด เหลืออีก 1 ชุด มีการสั่งให้ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองราชบุรี ซึ่งตอนนั้นไม่มีเงินจ่าย และยังรู้สึกตกใจกลัว เพราะเขาบอกว่าถ้าไม่มีเงินจ่ายจะจับติดคุกอย่างเดียว เลยโทรไปปรึกษาตนเองก็เลยรีบมาพร้อมกับถามว่าใครเป็นเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ที่มาแจ้งจับลิขสิทธิ์ หลานได้ชี้ไปที่ชายคนหนึ่ง จึงเข้าไปสอบถามชายคนดังกล่าวพร้อมกับขอตรวจสอบดูใบเอกสารการแสดงตัวของเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์มีชื่อ นามสกุลอะไร และขอดูบัตรประจำตัวประชาชนด้วย แต่ชายคนนั้นไม่ยอมให้ดูและมีอาการบ่ายเบี่ยง แถมอ้างว่าอยากรู้ให้ไปถามร้อยเวรเอาเอง

อย่างไรก็ตามไม่นานชายคนนั้นก็ไปนำเอกสารมาให้ดูโดยที่ตนเองยังไม่ทันอ่านรายละเอียด โดยชายคนนั้นอ้างว่าเป็นเอกสารลับของทางราชการ หากเราเปิดอ่านก็จะมีความผิดฐานล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล โดนปรับอีก 5 หมื่นบาท เลยเกิดการโต้เถียงเกิดขึ้น ต่างคนต่างไม่ยอมกัน ไม่นานชายผู้นั้นก็ยกโทรศัพท์พูดว่า เคสนี้ไม่เอาเงินแล้ว จับติดคุกอย่างเดียว

ขณะเดียวกันถามว่าตนเองไม่มีสิทธิ์ประกันตัวเหรอ ชายคนนั้นอ้างว่าจับเข้าคุกมาทุกรายแล้ว สรุปร้อยเวรคนนั้นบอกว่า ถ้าเกิดต่อสู้คดีจะต้องเสียเงินค่าค้ำประกัน 1 แสนบาท และถ้าทำคดีไม่เสร็จภายในคืนนี้จะต้องหลานคุณจะต้องติดคุก 1 คืน ไม่มีสิทธิ์ประกันตัว จนกว่าจะสืบสวนสอบสวนเสร็จ ปรากฏว่าคุยกันไปมามีการลดลงเหลือ 3 หมื่นบาท แต่ก็ไม่ยอมอีก ทางร้อยเวรได้เรียกหลานเข้าไปคุยอีกห้องหนึ่ง จากนั้นได้เรียกลิขสิทธิ์ไปพูดคุย สักพักออกมาบอกว่าไกล่เกลี่ยให้แล้วขอ 1 หมื่นบาท หลานเลยยอมให้ไป

นางอังคนางค์ แก้วขวัญเพชร ผู้ที่ถูกจับกุมรายหนึ่ง ที่ถูกจับเสื้อผ้าชุดนอนรูปเป็ดเปิดเผยว่า มาแจ้งความเพื่อเรียกร้องขอดูเอกสารว่าคนที่มาจับมาจากลิขสิทธิ์จริงมั๊ย เพราะวันนั้นที่ได้มาจับ เขาไม่ได้ให้ดูเอกสารอะไรเลย จึงเดินทางมาแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ