posttoday

ปธ.ศาลฎีกาเปิดหลักกม.คดีลิขสิทธิ์ต้องดูที่เจตนาเคยมีคำพิพากษายกฟ้องมาแล้ว

07 พฤศจิกายน 2562

"พล.ต.อ.วิระชัย" สั่งภาค3และภูธรนครราชสีมา ตั้งกรรมการสอบตำรวจ มีเอี่ยวล่อซื้อกระทงลิขสิทธิ์หรือไม่ หากพบผู้ใดเกี่ยวข้อง ดำเนินการเอาผิดขั้นเด็ดขาด

"พล.ต.อ.วิระชัย" สั่งภาค3และภูธรนครราชสีมา ตั้งกรรมการสอบตำรวจ มีเอี่ยวล่อซื้อกระทงลิขสิทธิ์หรือไม่ หากพบผู้ใดเกี่ยวข้อง ดำเนินการเอาผิดขั้นเด็ดขาด

นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เปิดเผยกรณีการล่อซื้อจับกุมกระทง ลิขสิทธิ์รูปตุ๊กตาญี่ปุ่นว่า ได้ทราบข่าวนี้จากสื่อมวลชน โดยหลักของกฎหมายต้องดูที่เจตนา ซึ่งศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษาคดีทำนองเดียวกันว่า "บริษัทเอกชน"ว่าจ้างให้ทำ"คอมพิวเตอร์"แต่มีการใส่"ซอฟแวร์"เข้าไปในตัวเครื่องทำให้ถูกดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งในที่สุดแล้วศาลฎีกาก็มีคำพิพากษา"ยกฟ้อง" ส่วนข่าวระบุว่ามีการว่าจ้างเด็กให้ทำกระทงตุ๊กตา เป็นไปได้ว่าอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่ แต่หลักของกฎหมายต้องดูที่เจตนาเป็นสำคัญ ซึ่งบางครั้งผู้เสียหายอาจจะเป็นผู้ยุยงให้กระทำความผิดเสียเอง จึงต้องไปดูในรายละเอียดประกอบกับพยานหลักฐาน


"ในเรื่องเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ ศาลฎีกาเคยมีคำวินิจฉัยไว้หลายคดี เช่นการจับกุมแล้วกล่าวหาละเมิดลิขสิทธิ์โดยการได้มาซึ่งตัวจำเลยนั้นมีการล่อซื้อ มีการวางแผนจับกุม โดยบางครั้งเหมือนกับว่าไปยุยงส่งเสริมให้มีการกระทำความผิดโดยที่จำเลยไม่ได้เป็นคนริเริ่มเอง ซึ่งมีคดีหนึ่งที่บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ไปว่าจ้างจำเลยให้ทำคอมพิวเตอร์แล้วบอกให้บรรจุโปรแกรมด้วย กระทั่งมีการไปเอาซอฟท์แวร์ที่ติดลิขสิทธิ์มาใส่ให้ในคอมพิวเตอร์ กรณีอย่างนี้เห็นว่าเมื่อเริ่มต้นจำเลยผลิตแต่ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ได้ผลิตโปรแกรม แต่พอมีคำสั่งซื้อเข้ามาก็ไปเอาโปรแกรมมาใส่ให้ ศาลก็เห็นว่าขาดเจตนาจะละเมิดลิขสิทธิ์"

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ทราบข้อเท็จจริงในคดีเป็นอย่างไร เท่าที่ทราบจากข่าวเพียงว่ามีคนมาว่าจ้างเด็กให้ใช้รูปแบบลายการ์ตูนทำกระทง ก็ลักษณะเหมือนรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่ แล้วมีการเข้าไปจับกุม ซึ่งไม่อยากให้ความเห็นอะไรที่ลงลึกไปเพราะอาจจะเป็นการไม่ให้ความเป็นธรรมกับอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะเรายังไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่หลักกฎหมายที่เราพอจะสรุปได้ คือ "ถ้าเขาไม่มีความตั้งใจละเมิดลิขสิทธิ์" แต่ถ้าไป"ยุยงส่งเสริมล่อให้ทำขึ้น" กรณีแบบนี้ก็เกิดจากบุคคลที่อ้างเป็นผู้เสียหาย มีส่วนที่ก่อให้เกิดการกระทำความผิด ซึ่งคำพิพากษาศาลฎีกาเคยมีแนววินิจฉัยว่า "ผู้เสียหายมีส่วนในการยุยง"ให้เกิดการกระทำความผิด จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ที่จะมีอำนาจเอาคดีมาฟ้องได้

ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. เดินทางติดตามความคืบหน้ากรณีกลุ่มตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ล่อจับกุมผู้จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หลายรายใน จ.นครราชสีมา ขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 36 ราย แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ข้อหา "กรรโชกทรัพย์" และเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับ 3 ตัวแทนลิขสิทธิ์ มารับทราบข้อกล่าวหา ขณะเดียวกันสั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 3 และภูธรจังหวัดนครราชสีมา ตั้งกรรมการสอบสวนกรณีข้อสงสัยว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนสมรู้ร่วมคิดรู้เห็นเป็นใจ หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับพฤติกรรมของขบวนการนี้หรือไม่หากพบผู้ใดเกี่ยวข้องจะดำเนินการเอาผิดขั้นเด็ดขาด โดยไม่ไว้หน้าผู้ใด

"ตำรวจได้สอบปากคำ นายภควรรษก์ ศรสำราญ ผู้บริหาร บริษัท เวอริเชค จำกัด ดูแลลิขสิทธิ์การ์ตูนแมวกาฟิวส์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา และการ์ตูน ริลัคคุมะจากญี่ปุ่นยอมรับว่า นายประจักษ์ โพธิผล เป็นตัวแทนรับมอบอำนาจจากบริษัทจริงแต่ไม่มีนโยบายไล่จับกุมผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ กรณีที่นายประจักษ์ พร้อมพวกไปล่อจับกุมเด็กอายุ 15 ปี ผลิตกระทงขาย และพ่อค้าแม่ค้ารายอื่นๆแล้วเรียกค่าเสียหาย สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว นายประจักษ์ ไม่ได้ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์และไม่ได้รายงานให้บริษัทรับทราบ ประเด็นนี้จะนำมาเป็นข้อมูลการสอบสวนเพื่อดำเนินการเอาผิดกับนายประจักษ์และพวกต่อไป" พล.ต.อ.วิระชัย กล่าว