คุก 6 วัน"ป้ามหาภัย"หลอกขอเงินชาวบ้าน หลังศาลสั่งปรับ 3,000 บ.แต่ไม่มีจ่าย

ตำรวจสน.ห้วยขวาง รวบ ป้ามหาภัย หลอกขอเงินชาวบ้าน เจ้าตัว บอกโดนคดีเล็กน้อย ทำเพราะมีความสุข ระบุ ยังมีภารกิจทางความคิดต้องทำอีกเยอะ ล่าสุดศาลสั่งปรับ 3,000 บาท แต่ไม่มีเงินจ่าย จนท.ราชทัณฑ์คุมตัวไปกักขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง 6วันแทนการชำระค่าปรับ

เมื่อวันที่ 19 ตค. จากกรณีที่มีการแชร์เรื่องราวเตือนภัย คุณป้าคนหนึ่งซึ่งเป็นมิจฉาชีพ ชอบใช้มุกที่ว่าตนถูกกรีดกระเป๋า แล้วมาขอเงินเหยื่อ เป็นค่าเดินทางกลับบ้าน โดยเมื่อวันที่ 18 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ห้วยขวาง ได้ทำการเชิญตัว น.ส.ยุพาพร (ขอสงวนนามสกุล) วัย 53 ปี เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ดูหมิ่นซึ่งหน้า เบื้องต้นตำรวจได้ทำการพูดคุยเพื่อสอบถามสาเหตุ ก่อนจะนัดหมายให้มาในวันนี้อีกครั้ง

จากการสอบปากคำ น.ส.ยุพาพร เปิดเผยว่า ตนได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยส่วนตัวเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ และรู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะไม่ได้ไปขโมยของของใคร ที่ทำไปก็แล้วแต่คนจะให้ และมันคือความสุข ที่ในทุกๆ เช้าจะต้องนั่งรถออกไปเรื่อยๆ และพบเจอผู้คนและก็ได้ขอความช่วยเหลือจากคนที่พบเห็น และในแต่ละวันที่ออกไปหาเงิน จะมีการวางเป้าหมายไว้ว่า วันนี้จะต้องได้เงินเท่าไหร่ โดนเงินที่ได้นั้นนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

สำหรับประวัติของของ น.ส.ยุพาพร พบว่าเคยศึกษาในหลายมหาวิทยาลัย หลายคณะ และในปัจจุบันเรียนอยู่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ยังทำงานเป็นนักสื่อสารองค์กร และยังเป็นโบรกเกอร์ ทำให้มีวิธีและกระบวนการคิดที่ค่อนข้างซับซ้อน

ด้านพ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า เบื้องต้นที่ได้พูดคุยกับ น.ส.ยุพาพร ได้พยายามปรับความเข้าใจให้ป้าทราบว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ผิด และให้ออกมาขอโทษสังคม และไม่อยากให้ป้าก่อเหตุแบบนี้อีก โดยในวันที่ 19 ต.ค. ได้นัดหมายเพื่อที่จะนำตัวไปเปรียบเทียบปรับที่ศาลอาญาต่อไป

ทั้งนี้เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ยุพาพร ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาขึ้นรถจยย.ไปรับโทษเปรียบเทียบปรับที่ศาลแขวงพระนครเหนือ

โดย น.ส.ยุพาพร กล่าวก่อนเดินทางออกจาก สน.ห้วยขวาง ว่า คดีความที่เกิดขึ้นไม่ได้มีปัญหากับตนมากนัก และยังเชื่อว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากเทียบกับเรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมนั้นใหญ่กว่ามาก ทั้งนี้ตนยังมีภารกิจทางความคิดอีกหลายอย่างที่จะต้องทำ

ล่าสุด ศาลแขวงพระนครเหนือ ได้พิเคราะห์พฤติการณ์ตามข้อกล่าวหา ประกอบกับไต่สวนจำเลยตามคำให้การแล้ว พิพากษาปรับเป็นเงิน 3,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยไม่มีเงินชำระค่าปรับและไม่สามารถติดต่อญาติได้ จึงให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวไปกักขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แทนการชำระค่าปรับ โดยมีการคิดอัตราโทษกักขัง 1 วัน แทนการชำระเงินค่าปรับ 500 บาท ซึ่งนางสาวยุพาพรต้องถูกกักขังเป็นเวลา 6 วัน นับตั้งแต่ที่มีคำพิพากษา