posttoday

คำให้การพยานไม่ตรงข้อเท็จจริง! DSIบินสำรวจเส้นทางคุมตัว "บิลลี่"

09 ตุลาคม 2562

ดีเอสไอเผยคำให้การพยานไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ต้องบินสำรวจเส้นทางการคุมตัว "บิลลี่" ขณะที่นิติวิทย์ฯ เร่งตรวจดีเอ็นเอยืนยันกระดูก

ดีเอสไอเผยคำให้การพยานไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ต้องบินสำรวจเส้นทางการคุมตัว "บิลลี่" ขณะที่นิติวิทย์ฯ เร่งตรวจดีเอ็นเอยืนยันกระดูก

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 62 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกรณีการสอบสวนคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกระเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอยว่า ในพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) ตนจะลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจสภาพพื้นที่โดยรวมและจุดเกิดเหตุจากมุมสูง 5 จุด รวมทั้งเส้นทางที่คาดว่าจะมีการนำตัวนายบิลลี่ไป โดยเฉพาะเส้นทางเข้า-ออก เพื่อให้เห็นสภาพพื้นที่จริงนำไปประกอบกับข้อมูลพื้นราบ เนื่องจากคำให้การของพยานเรื่องจุดปล่อยตัวบิลลี่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถือว่าพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนมีค่อนข้างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว และคดีมีความคืบหน้าไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากดีเอสไอได้รับสำนวนสอบสวนของป.ป.ท. จะนำไปประกอบกับสำนวนเพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบสวนต่อไป โดยดีเอสไอจะต้องเรียกสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 20 ปาก รวมทั้งการสอบปากคำพ.ต.ต.สิริพงษ์ ศรีตุลาผอ.สำนักปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีนายบิลลี่ กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ กับพวกกระทำความผิดฐานทุจริต หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่เปรียบเทียบปรับและไม่นำตัวนายบิลลี่ ซึ่งกระทำความลักลอบขนน้ำผึ้งป่า 5 ขวดส่งให้พนักงานสอบสวนสภ.แก่งกระจาน เนื่องจากมีสาเหตุโกรธเคืองนายบิลลี่มาก่อน และพนักงานสอบสวนของปปท.ด้วย

ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ภายหลังผลตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกะโหลกศรีษะที่งมขึ้นมาจากร่องน้ำลึกในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานพบว่ามีดีเอ็นเอไมโทรคอนเดียตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของนายบิลลี่ แต่ดีเอสไอต้องการให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนกระดูกที่เหลืออีก 8 ชิ้น เพื่อยืนยันให้ได้ว่าตรงกับดีเอ็นเอของนายบิลลี่หรือไม่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ทางห้องปฏิบัติการ คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์

ทั้งนี้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะส่งผลการอ่านแปลค่าดีเอ็นเอจากวัตถุพยานไปปรึกษากับผู้เชี่ยว ชาญในต่างประเทศเพื่อยืนยันว่าการอ่านแปลผลวิเคราะห์ถูกต้องเป็นมาตรฐานสากล

“ยืนยันว่ามาตรฐานและอุปกรณ์เครื่องมือที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มีไว้ใช้งานตรวจพิสูจน์อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสากล ทั่วโลกก็ใช้วิธีการและเครื่องมือตรวจเหมือนกันทั้งหมด จึงขอให้มั่นใจในความเป็นมาตรฐาน ซึ่งได้กำชับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของสถาบันฯให้ตรวจสอบวัตถุพยานในคดีทุกชิ้นอย่างละเอียดรอบคอบ เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและมีผลกระทบกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย”พ.ต.ท.วรรณพงษ์กล่าว