กรมส่งเสริมฯ ลงพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด จ่อยืดหนี้สมาชิกสหกรณ์ฯ ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม

กรมส่งเสริมฯ เตรียมเปิดจุดบริการซ่อมเครื่องจักรกลการเกษตรและฟื้นฟูอาชีพหลังน้ำลดทันที พร้อมจัดสรรเงินกองทุนฯปลอดดอกเบี้ย1ปี ให้สหกรณ์กู้ยืมให้สมาชิกฟื้นฟูอาชีพ ปลูกพืชระยะสั้นสร้างราย

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการจิตอาสากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยเหลือ ฟื้นฟู ดูแลเกษตรกรผู้ประสบภัย ณ ลานสาเกตนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดกิจกรรมจิตอาสากระรวงเกษตรและสหกรณ์ฯ ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีการปล่อยขบวนคาราวานรถโมบายเคลื่อนที่เร็ว เข้าไปช่วยเหลือดูแลเกษตรกรผู้ประสบภัย โดยมีบริการซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องจักรกลทางการเกษตร การมอบพันธุ์ปลา พันธุ์พืช เมล็ดพันธุ์ การมอบหญ้าอาหารสัตว์ การบำบัดน้ำเสีย และมีเครือข่ายสหกรณ์จากจังหวัดร้อยเอ็ด นครราชสีมา สุรินทร์และชัยภูมิ

นอกจากนี้ได้สำรวจความเสียหายเรื่องพืช เรื่องสัตว์และประมง และติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดร้อยเอ็ด พบว่า น้ำได้ท่วมทั้งในพื้นที่เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนครอบคลุมพื้นที่ทุกอำเภอ และได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ความเสียหายเบื้องต้น พื้นที่การเกษตรในจังหวัดร้อยเอ็ด คาดว่าจะเสียหายจำนวน 788,762 ไร่ ทั้งนาข้าว พืชไร่ พืชสวน พื้นที่ประมงทั้งบ่อกุ้ง บ่อปลา และมีความเสียหายด้านปศุสัตว์ ไก่และสุกรตาย กว่า 644 ตัว ที่อยู่อาศัยของประชาชนเสียหาย 308 ครัวเรือน

สำหรับความเสียหายในส่วนของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรและสมาชิกที่จากเหตุการณ์น้ำท่วมใน 21 จังหวัดครั้งนี้ มีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้รับผลกะทบ 316 แห่ง สมาชิก 84,775 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรของสมาชิกเสียหาย 1.07 ล้านไร่ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เตรียมแผนฟื้นฟูฯหลังน้ำลดให้เกษตรกร โดยจะจ่ายเงินชดเชยความเสียหายทั้งพื้นที่การเกษตรที่ปลูกพืช ประมงและปศุสัตว์ รวมถึงจะมอบพันธุ์ข้าว พันธุ์สัตว์และปลา และส่งเสริม การปลูกพืชระยะสั้น เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

การบรรเทาปัญหาเรื่องหนี้สินให้กับเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วม มีทั้งในส่วนของเกษตรกรที่เป็นลูกค้าธกส. และเป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตร ซึ่งเบื้องต้นกรมฯได้ขอความร่วมมือให้สหกรณ์ได้ร่วมกันดูแลสมาชิกของตนเอง โดยขอให้ชะลอการชำระหนี้และลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิกสหกรณ์ และจะดูแลเรื่องเงินทุนเพื่อให้นำไปประกอบอาชีพ โดยจัดสรรเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) วงเงิน 576.287 ล้านบาท เป็นเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 1 ปี ให้สหกรณ์ขอกู้ยืมได้สหกรณ์ละไม่เกิน 5 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูอาชีพให้กับสมาชิก

ทั้งนี้สหกรณ์สามารถนำไปให้สมาชิกกู้ต่อรายละไม่เกิน 20,000 บาท ปลอดดอกเบี้ยระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เช่นเดียวกัน โดยสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการจะต้องประกอบอาชีพทำการเกษตรและพื้นที่ทำการเกษตรได้รับความเสียหายและต้องอยู่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินระดับจังหวัด และยังได้ขยายเวลาชำระหนี้ให้สหกรณ์ที่มีหนี้เงินกู้ กับกองทุนพัฒนาสหกรณ์ก่อนเกิดภัยพิบัติ และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สหกรณ์ขาดรายได้ที่จะนำมาส่งชำระหนี้คืนกพส.ได้ ให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปอย่างน้อย 1 ปี