โพลล์ขนส่งฯหนุนเปลี่ยนรถตู้เก่า ชี้คนขับไร้มารยาท ด้านแท็กซี่มีปัญหาปฏิเสธรับลูกค้ามากสุด

กรมขนส่งฯโชว์ผลโพลล์ชี้ประชาชน 49% เห็นควรให้ปรับปรุงรถตู้ ชี้ปัญหาหลักคือสภาพรถ-คนขับ-ความเร็วเกินกำหนด ขณะที่ประชาชน 78% ไม่ต้องการให้ขึ้นค่าแท็กซี่

นายธานี สืบฤกษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า การจัดทำผลสำรวจความเชื่อมั่นและความคิดเห็นประชาชนต่อบริการระบบขนส่งสาธารณะจากการเก็บข้อมูลสำรวจในช่วงเดือน ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปผลโพลล์เพื่อนำไปประกอบแนวทางดำเนินนโยบายซึ่งกำหนดกรอบเวลาไว้ 6 เดือน ทั้งเรื่องการเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสตลอดจนการปรับขึ้นค่าโดยสารรถตู้และรถแท็กซี่เป็นต้น

อย่างไรก็ตามกรมการขนส่งทางบกต้องการให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องนำผลโพลล์ไปเป็นคะแนนหลักในการตัดสินใจในนโยบายด้วย ทั้งนี้ตนมองว่ารถมินิบัสเหมาะสมที่จะใช้วิ่งขนส่งผู้โดยสารทางไกลมากกว่ารถตู้ ส่วนรถตู้เหมาะกับการขนส่งผู้โดยสารในระยะใกล้หรือในเขตเมือง เนื่องจากติดข้อจำกัดเรื่องที่จอดรถมินิบัสและปัญหากีดขวางการจราจรหากใช้รถคันใหญ่ ส่วนแท็กซี่ประชาชนส่วนใหญ่ก็มีความเห็นว่ามีปัญหาเรื่องปฏิเสธผู้โดยสาร

รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบกระบุว่า ผลโพลล์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อรถโดยสารสาธารณะ จัดทำโดยกรมขนส่งทางบก(ขบ.) แบ่งเป็นประเภทรูปแบบการขนส่ง เริ่มจากประเภทรถตู้โดยสารสาธารณะ พบว่า ประชาชน 49% ต้องปรับปรุงสภาพตัวรถ โดยมีประชาชนเพียง 12% ที่พึงพอใจ ขณะที่ด้านพนักงานขับรถนั้น ประชาชน 46% เห็นว่าควรปรับปรุง โดยมีประชาชน 17% ที่พึงพอใจ ส่วนด้านงานบริการพบว่าประชาชน 43% ไม่พอใจอย่างมาก

ขณะที่ราคาค่าโดยสารพบว่าประชาชน 70% พึงพอใจในราคาปัจจุบันและอีก 23% ต้องการให้เพิ่มค่าโดยสาร อย่างไรก็ตามด้านปัญหาของรถตู้โดยสารนั้น พบว่า สภาพรถมาเป็นอันดับแรกที่ราว 30% รองลงมาคือเรื่องของความเร็วในการขับขี่ที่มากกว่า GPS กำหนด 27% ส่วนด้านพฤติกรรมการขับขี่อยู่ที่ 21%

ด้านผลโพลล์ด้านงานบริการรถจักรยานยนต์สาธารณะ พบว่า ประชาชน 25% เห็นว่าต้องมีการปรับปรุงสภาพของตัวรถ และ 73% รู้สึกเฉยๆและพอใจกับสภาพของรถ ส่วนด้านพฤติกรรมของผู้ขับขี่นั้นมากกว่า 40% เห็นควรให้ปรับปรุง โดยมีประชาชนเพียง 16% ที่พอใจในตัวผู้ขับขี่ ขณะที่คุณภาพของบริการนั้นประชาชน 37% เห็นว่าต้องปรับปรุง และอีก 45% รู้สึกเฉยๆ ส่วนด้านค่าโดยสารนั้นพบว่าประชาชนราว 50% เห็นว่าต้องปรับลดราคาลงมา ขณะที่ประชาชนเพียง 18% พึงพอใจกับอัตราค่าโดยสารในปัจจุบัน

ทั้งนี้ผลโพลล์เรื่องปัญหาของรถแท็กซี่นั้น อันดับแรกคือการปฏิเสธผู้โดยสาร มีสัดส่วน 32% รองลงมาคือเรื่องมารยาทในการให้บริการ 26% และเห็นควรให้เพิ่มบทลงโทษแท็กซี่ 24% ขณะที่อีก 14% เสนอให้มีการจัดอบรมผู้ขับขี่แท็กซี่

อย่างไรก็ตามด้านคุณภาพของรถนั้นมีเพียง 24% เห็นว่าควรปรับปรุง โดย 79% รู้สึกเฉยๆ และพึงพอใจกับสภาพรถ ส่วนด้านพนักงานขับรถนั้นประชาชน 40% เห็นว่าต้องรีบปรับปรุง และ15% พึงพอใจ ด้านงานบริการประชาชน 43% เห็นควรให้ปรับปรุง โดยมีประชาชนเพียง 15% ที่พึงพอใจ สุดท้ายเรื่องค่าโดยสารประชาชน 78% เห็นว่าควรปรับปรุงและรู้สึกเฉยๆ ขณะที่ประชาชนอีก 22% สนับสนุนให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร