posttoday

แท็กซี่เดือด ! พร้อมแตกหักค้าน Grab ขู่ฟ้องศาลฯกราวรูดตั้งแต่รัฐมนตรียันนายกรัฐมนตรี

17 กันยายน 2562

กลุ่มแท็กซี่โอด รวมตัวประท้วงยื่นหนังสือคัดค้าน Grab   เตรียมฟ้องศาลปกครองฯ ยื่นขอเยียวยา 8,500 ล้านบาท พ่วงปรับขึ้นราคา ตอกกลับโลกออนไลน์ถ้าไม่มีแท็กซี่แล้วจะรู้สึก

กลุ่มแท็กซี่โอด รวมตัวประท้วงยื่นหนังสือคัดค้าน Grab   เตรียมฟ้องศาลปกครองฯ ยื่นขอเยียวยา 8,500 ล้านบาท พ่วงปรับขึ้นราคา ตอกกลับโลกออนไลน์ถ้าไม่มีแท็กซี่แล้วจะรู้สึก

นายวรพล   แกมขุนทด  นายกสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่  และสมาชิกกว่า 50 คน ได้รวมตัวประท้วงยื่นหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม  โดยกล่าวว่า คัดค้านการทำให้ Grab เสรีทุกรูปแบบหรือการอนุญาตให้รถป้ายดำมาวิ่งบริการผู้โดยสารเนื่องจากเป็นการเอาเปรียบผู้ขับขี่แท็กซี่ถูกกฎหมายเราะมีต้นทุนเรื่องกฎระเบียบต่างๆที่ถูกกว่าเกือบ 200% ต่อปี โดยผู้ขับขี่ Grab มีต้นทุน 8,000 บาทต่อปี และผู้ขับขี่แท็กซี่มีต้นทุนมากกว่า 25,000 บาทต่อปี

นอกจากนี้ผู้ขับขี่แท็กซี่สาธารณะยังต้องเสียค่าใช้จ่ายการติดตั้งแอพพลิเคชั่น Taxi Ok มากกว่าคันละ 20,000 บาท ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาลเยียวยาค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ด้วย หากจะเปิดเสรีบริการขนส่งผู้โดยสารแบบ Ride Hailing Service ซึ่งคาดว่าจะเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 8,500 ล้านบาท

สำหรับการเปิดเสรี Grab นั้นเป็นการผูกขาดบริษัทเอกชนเจ้าเดียวให้เข้ามาแข่งขันในตลาดขนส่ง เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเพื่อเปิดทางให้กับเอกชนเข้ามาผูกขาด

ดังนั้นหากกระทรวงคมนาคมยังนิ่งนอนใจ สมาคมจะรวมตัวกันไปฟ้องศาลปกครองสูงสุดตั้งแต่ คณะทำงานกระทรวงคมนาคม  นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไปจนถึง นายกรัฐมนตรี พ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

อย่างไรก็ดีการออกมาประท้วงในวันนี้ไม่ต้องการเจอตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพราะเจอกันไปก็เปล่าประโยชน์ รัฐมนตรีมีแค่รับเรื่องไปพิจารณาแต่ไม่เคยมีการดำเนินการใดใดตามข้อเรียกร้องของสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ทั้งนี้ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น. กลุ่มแท็กซี่จะเข้าพบนายกฯ ที่รัฐสภาใหม่ บริเวณเกียกกาย

นายวรพล กล่าวว่า หากจะเปิดเสรี Grab ต้องมีการตรวจสอบยานพาหนะและผู้ให้บริการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องการจดทะเบียนตามข้อบังคับของกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) ทว่าเจ้าหน้าที่ ขบ. มีไม่เพียงพอ ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมผู้ขับขี่ Grab ได้แน่นอน โดยตนเชื่อว่าหากเปิดเสรีจะมีผู้ขับขี่ Grab จำนวนมากไม่จดทะเบียนแล้วนำรถมาวิ่งรับส่งผู้โดยสาร อาจจะจดทะเบียนไม่ถึง 10 คันด้วยซ้ำจากปริมาณผู้ให้บริการนับแสนคัน เนื่องจากปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกยังไม่สามารถเข้มงวดการจับกุมรถแท็กซี่ที่หมดอายุแล้วนำมาวิ่งได้เลย จะไปเอาอะไรกับควบคุมผู้ขับขี่ Grab

ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ว่า การที่ประชาชนสนับสนุน Grab นั้นทางผู้ขับขี่แท็กซี่ก็พร้อมเดินหน้าแข่งขันหากเปิดเสรี แต่ถ้าวันนึงแท็กซี่ไม่มีบริการแล้วประชาชนจะรู้สึก โดยเฉพาะพี่น้องจากต่างจังหวัดที่เข้ามาในกรุงเทพ นอกจากนี้ผู้วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้เป็นคนมีประสบการณ์ขับขี่แท็กซี่ เป็นเพียงคนที่อยู่บ้านแล้วพิมพ์ข้อความอยู่กับคีย์บอร์ด ส่วนที่มีการท้าทายให้แท็กซี่หยุดวิ่งเพื่อทดสอบว่าประชาชนจะเดือดร้อนหรือไม่หากไม่มีแท็กซี่นั้น คงทำไม่ได้เพราะพี่น้องแท็กซี่ต้องทำมาหากิน อีกทั้ง Grab ยังคิดค่าโดยสารแพงกว่าแท็กซี่ปกติอีกด้วย

นายวรพลกล่าวถึงข้อเรียกร้องที่ยื่นให้กับกระทรวงคมนาคมว่า มีอยู่ 6 ข้อด้วยกัน ประกอบด้วย 1.กรณีอนุมัติให้รถยนต์นั่งบุคคลป้ายดำ หรือแกร็บ (Grab) ให้ถูกกฎหมาย 2.กรณีอุปกรณ์แท็กซี่โอเคที่ไร้ประสิทธิภาพ รัฐบาลต้องหาทางชดใช้และเยียวยาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคืนให้กับผู้ประกอบการแท็กซี่ทุกคัน หากมีการอนุมัติให้แกร็บวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ทำให้เกิดเหตุมีการแข่งขันทางด้านธุรกิจกันมากเกินไป รวมทั้งไม่สามารถกำหนดราคามาตรฐานได้ จนถึงต้องประกาศให้บริการในราคาค่าโดยสารที่ต่ำเกินกว่ามาตรฐานในเว็บไซต์ต่างๆ  ทั้งนี้ทำให้ผู้ประกอบการแท็กซี่หรือพนักงานขับรถไม่สามารถดำเนินการแข่งขันทางด้านธุรกิจได้ การจำกัดความเร็วของรถ ติดตั้งฟิล์มกรองแสง

3.การปรับใช้อายุแท็กซี่จาก 9 ปีเป็น 12 ปี 4.ใบสั่งนำไปจ่ายที่โรงพักใดก็ได้ทั่วประเทศไม่เปรียบเทียบปรับ ณ จุดตั้งด่าน ไม่ยึดใบขับขี่ 5.เร่งรัดหาข้อสรุปการปรับขึ้นราคาค่าบริการของแท็กซี่ปัจจุบัน และ 6.ให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมพิจารณาแก้ไขกฎหมาย โดยมาจากตัวแทนกลุ่มคนขับรถรับจ้างสาธารณะ

อย่างไรก็ตามคณะกรรมการสมาคมฯ ประชุมหารือและมีมติเห็นชอบควรทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม เพื่อแจ้งถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับอาชีพคนขับรถแท็กซี่สาธารณะที่ถูกต้อง มีใจรักในงานบริการ หากกระทรวงมีการพัฒนาแท็กซี่ขอให้ทัดเทียมอยู่ในรูปแบบภายใต้กฎหมายเดียวกัน ระเบียบ วิธีการ ข้อบังคับ กฎกติกา รวมทั้งต้นทุนการนำรถยนต์มาใช้ประกอบอาชีพ ลักษณะรูปลักษณ์และมาตรฐานเดียวกัน คาดว่าความเดือดร้อนจะไม่เกิดกับคนขับแท็กซี่อย่างเดียว แต่กระทบถึงครอบครัว ที่มีจำนวนมาก ทั้งที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และอาจส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย การโจรกรรมจะเกิดขึ้นและความวุ่นวายอีกมาก

ด้านนายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  กล่าวว่า จะนำข้อเรียกร้องไปเสนอ รมว.คมนาคม ต่อไป ขณะนี้ต้องรอกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รวบรวมข้อเรียนร้องและแนวทางแก้ไขของกลุ่มแท็กซี่ทั้งหมด เสนอกลับมายัง รมว.คมนาคม หลังจากนั้นค่อยนัดประชุมใหญ่หารือกันอีกครั้ง โดยจะมี รมว.คมนาคมเป็นประธาน

สำหรับข้อเรียกร้องครั้งนี้ ต้องการแก้ปัญหาให้รถแท็กซี่ถูกกฎหมาย ทั้งรถแท็กซีที่มีอายุการใช้งาน 9 ปี ต้องปลดระวาง ประมาณ 30,000-40,000 คัน ยังมีวิ่งบริการแข่งกับรถแท็กซี่ที่ถูกกฎหมายอยู่ โดยให้จำกัดรถเหล่านี้ออกจากระบบ เพื่อให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมายที่ถูกต้อง โดยกลุ่มนี้ไม่ได้มองในเรื่องปรับขึ้นค่าโดยสารเลย

ทั้งนี้ตามนโยบายของ รมว.คมนาคม ส่วนไหนที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของแท็กซี่ได้ วันนี้แท็กซี่โอเคอาจจะเป็นค่าใช้จ่ายนที่สูงมาก รายปีที่สูง ตรงไหนที่ลดได้จะพิจารณาให้ แต่ผู้โดยสารที่ใช้บริการต้องมีความปลอดภัย เมื่อเกิดเหตุกับแท็กซี่ต้องสามารถติดตามตัวผู้มากระทำผิดได้ ไม่ใช่ลดความปลอดภัยและราคาค่าโดยสารที่ถูกลง ขณะนี้ยินดีรับข้อเสนอของทุกกลุ่ม เพราะจะได้ไม่มีข้อโต้แย่งเมื่อมีการประกาศใช้