posttoday

โพลห่วงดีเอสไอถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง ส่งผลกระทบทำคดีพิเศษ

06 กันยายน 2562

นิด้าโพล เผยสังคมห่วงดีเอสไอถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง-ส่งผลกระทบการทำคดีพิเศษ เชื่อหากสำรวจหลังแถลงคดีบิลลี่ สังคมจะรู้จักดีเอสไอเพิ่มขึ้นถึง 90 เปอร์เซ็นต์

นิด้าโพล เผยสังคมห่วงดีเอสไอถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง-ส่งผลกระทบการทำคดีพิเศษ เชื่อหากสำรวจหลังแถลงคดีบิลลี่ สังคมจะรู้จักดีเอสไอเพิ่มขึ้นถึง 90 เปอร์เซ็นต์

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น"นิด้าโพล"เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของสังคมที่มีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ประจำปีงบประมาณ2562 ซึ่งได้จากการจัดเก็บข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพจากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่5-16 สิงหาคม 2562 พบว่า

ผลการสำรวจเชิงปริมาณจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วไป ผู้รับบริการ และผู้มีส่วนได้เสียของกรมสอบสวนคดีพิเศษ กว่า2,500 กลุ่มตัวอย่าง พบว่า ในส่วนของระดับความเชื่อมั่นของสาธารณชนที่มีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กลุ่มผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง มีระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 78.90 ส่วนกลุ่มประชาชนทั่วไป มีระดับความเชื่อมั่นร้อยละ64.90  /ประเด็นที่กลุ่มตัวอย่างให้ความเชื่อมั่นมากที่สุด คือ ความเชี่ยวชาญของบุคลากร รองลงมาคือ ความโปร่งใส และความเท่าเทียม ตามลำดับ  /ขณะที่ ผลสำรวจการรับรู้ รับทราบ บทบาทหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ถึงร้อยละ93 ระบุว่า  พอรู้จัก มีเพียงร้อยละ 6.8 ที่รู้จักเป็นอย่างดี โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 81 ทราบว่า เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ในขณะที่บทบาทหน้าที่ในด้านอื่นมีการรับรู้ค่อนข้างต่ำ

สำหรับการติดตามข้อมูลข่าวสารและผลงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่าตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ98 ติดตามผ่านสื่อโทรทัศน์ รองลงมาคือ เฟซบุ๊ก และหนังสือพิมพ์ตามลำดับ

ส่วนผลการสำรวจเชิงคุณภาพ จากผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้รับบริการ ผู้ได้รับผลกระทบจากการให้บริการ หน่วยงานร่วมปฎิบัติ จำนวน20หน่วยตัวอย่าง ผลสำรวจความเชื่อมั่นที่มีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า โครงสร้างการทำงานดี มีการทำงานแบบถ่วงดุล มีช่องทางการให้บริการและอำนวยความยุติธรรมที่ค่อนข้างเปิดกว้าง มีศักยภาพในการดำเนินคดีอาชญากรรมที่มีความยุ่งยากซับซ้อน  เนื่องจากมีอำนาจตามกฎหมายมากกว่าหน่วยงานยุติธรรมอื่นๆในการดำเนินคดีพิเศษ และมีบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ที่จะสามารถปฏิบัติหน้าที่และคลี่คลายคดีระดับประเทศซึ่งเป็นความหวังให้ประชาชนได้

ในขณะเดียวกัน ประเด็นที่ทำให้ระดับความเชื่อมั่นลดลงจนถึงระดับไม่เชื่อมั่น สำคัญสุด เป็นหน่วยงานที่ยังถูกแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งการดำเนินคดียังไม่มีความเป็นอิสระ การรับส่งต่อคดียังคลุมเครือในการแบ่งแยกคดีพิเศษ การเปลี่ยนแปลงของนโยบายการทำงานตามฝ่ายการเมือง ขาดการชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนในการดำเนินการให้ผู้เกี่ยวข้องในกับคดีได้รับทราบ ภาพลักษณ์ในการทำหน้าที่ทับซ้อนกับตำรวจ และมีความเคลือบแคลงในมาตรฐานการคัดเลือกบุคลากรมาทำหน้าที่

จากผลการสำรวจในครั้งนี้ สรุปได้ว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย ผู้รับบริการผู้บริหาร ที่รู้จักกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีระดับความเชื่อมั่นในระดับสูง  ในขณะที่กลุ่มประชาชนทั่วไป หรือคนที่ไม่รู้จักกรมสอบสวนคดีพิเศษจะมีระดับความเชื่อมั่นต่ำ

ดังนั้น จึงเสนอแนะให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์และสื่อสารกับประชาชน เพื่อให้รู้จักบทบาทหน้าที่ของกรมให้มากขึ้น เชื่อว่าหากมีการสำรวจในช่วงที่กรมแถลงข่าวพบกระดูกของบิลลี่ หรือนายพอละจี รักจงเจริญ เชื่อว่าผลการสำรวจประชาชนจะรู้จักกรมสอบสวนคดีพิเศษเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ90แน่นอน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่สังคมกังวล คือ ปัญหาการแทรกแซงทางการเมือง หรือคดีด้านการเมืองที้มีฝ่ายการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ซี่งต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง เพราะอาจมีความกังวลการเมืองเข้ามาจะมีผลต่อความเป็นกลางในการทำคดีและส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์ โดยเฉพาะคดีพิเศษที่มีความสำคัญซึ่งประชาชนมีความคาดหวังสูงว่ากรมจะไม่ถูกแทรกแซง จึงอยากให้มีการสรรหาบุคคลากรเข้ามาทำงาน ที่ต่างจากตำรวจ และมีระบบการคัดคนที่ต่างจากหน่วยงานอื่น โดยใช้สหวิชาชีพเข้ามาร่วม

ด้านพ.ต.อ ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า จากผลการสำรวจ ทำให้ได้รู้ทิศทางและนำมาทบทวนการทำงาน เพราะในการดำเนินคดีสำคัญเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และประชาชนได้รู้ว่าในแต่ละปีที่ดีเอสไอใช้งบประมาณกว่า 1พันล้านบาทไปใช้ทำอะไรบ้างและสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างไร ซึ่งมั่นใจว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสามารถเรียกคืนผลประโยชน์ให้รัฐได้มากกว่า 500,000 ล้านบาทซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตามดีเอสไอจะยังคงทำงานแบบูรรณาการกับทางอื่นในการทำคดีสำคัญๆ รวมถึงการคลี่คลายคดีการหายตัวไปของบิลลี่ซึ่งต้องทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานในการลงพื้นที่สืบสวนเก็บข้อมูล หาหลักฐานรวมทั้งดูสภาพภูมิประเทศทั้งในหน้าแล้งหน้าฝนซึ่งต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะพบหลักฐานสำคัญ ซึ่งเป็นงานยาก