ทนายครูปรีชาเผยมีหลักฐานใหม่ หวังพลิกคดีหวย30ล้าน

ทนายความส่วนตัว ครูปรีชา เผยมีหลักฐานใหม่เป็นภาพกล้องวงจรปิดขณะครูปรีชาไปรับลอตเตอรี่ที่ตลาดเรดซิตี้ เตรียมเสนอต่อศาลเพิ่มเป็นอีก 1 สำนวน

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 62 นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา คู่พิพาทของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ คดีหวย 30 ล้านอลเวง ได้กล่าวถึงกรณีที่ ตนเอง และ ครูปรีชา ออกมาระบุว่า คดีหวย 30 ล้าน จะมีการรีแมทช์คดีกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง ว่า การรีแมทช์ที่พูดถึงนี้ก็คือ จะมีการดำเนินคดีหรือจะมีการนำเสนอพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ได้มีการติดตามพยานหลักฐานที่จะรับฟังได้ว่า ในวันที่ 31 ต.ค. 2560 นั้น ครูปรีชา อยู่ในตลาดเรดซิตี้ และไปรับลอตเตอรี่ที่ตลาดดังกล่าว ซึ่งก็จะเป็นเรื่องของพยานหลักฐานที่จะนำเสนอใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ส่วนการอุทธรณ์ในคดีหลักนั้น ตนได้ไปยื่นคำร้องขอขยายเวลาในการอุทธรณ์ต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลก็ได้อนุญาตให้ขยายเวลาในการอุทธรณ์ออกไปจนถึงวันที่ 1 ต.ค. 2562 ส่วนการที่จะนำพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานใหม่ และถือเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญนั้น เราก็จะไปว่ากันใหม่

สำหรับพยานหลักฐานสำคัญก็คือ คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ซึ่งในขณะนี้เราได้มีการสืบทราบแล้วว่าคลิปวิดีโอนั้นมีอยู่จริง ซึ่งเราก็จะนำคลิปวีดีโอไปนำเสนอต่อศาลให้เป็นอีกสำนวนหนึ่ง สำหรับคลิปวิดีโอดังกล่าวสามารถบ่งชี้ได้ว่าในวันที่ 31 ต.ค. 2560 ทาง ครูปรีชา ได้มาที่ตลาดเรดซิตี้ และมารับลอตเตอรี่จริง

"กรณี หมวดจรูญ เบิกถอนเงินออกจากบัญชีไปหมดแล้ว แต่สุดท้ายหากคดีพลิกกลับมาเป็นของ ครูปรีชา ก็ต้องมาไล่ไปตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งก็ต้องเข้าสู่กระบวนการการบังคับคดีว่าให้บังคับไปตามคำพิพากษาดังกล่าว"นายวรยุทธ กล่าว

สำหรับการยื่นขยายอุทธรณ์คดีหลักที่เกิดความล่าช้า มาจากในส่วนของการทำคำพิพากษาการเขียนคำอุทธรณ์ เนื่องจากตนมีคดีอยู่หลายคดีที่จะต้องดำเนินการ และในส่วนของการทำอุทธรณ์ต่างๆ ก็มีอีกหลายคดีที่ต้องทำเช่นกัน ไม่ได้มีเพียงแค่คดีเดียว ซึ่งต้องมาแบ่งเวลาการอุทธรณ์ด้วย ประกอบกับเอกสารในสำนวนมีจำนวนมาก และคำเบิกความของพยานแต่ละฝ่ายเราจะต้องดูอย่างละเอียดว่าพยานหลักฐานที่นำเสนอไป ต้องทำอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะให้ทางศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาในส่วนของประเด็นให้รอบคอบ ซึ่งเราก็อยากเสนอให้ถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด จึงเป็นเหตุให้ล่าช้า

“เราคาดหวังว่าในชั้นอุทธรณ์จะสามารถพลิกคดีกลับมาได้ เนื่องจากเราจะเสนอรายละเอียดที่โต้แย้งกับคำพิพากษาด้วยความเคารพคำพิพากษาศาลชั้นต้น จะขอให้ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาโดยละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้งหนึ่งว่า ประเด็นที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ยังมีความคลาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ดังนั้นเราจะนำเสนอให้ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง” นายวรยุทธ กล่าว