เริ่มแล้ววันนี้กทม.เพิ่มโทษปรับขี่จยย.บนทางเท้าเป็น 2 พัน

กทม.เอาจริงเพิ่มโทษปรับซิ่งจยย.บนทางเท้าเป็น 2 พัน ครึ่งวันแรก จับได้ 18 ราย รองผู้ว่าฯ กทม.ย้ำพวกไม่เข็ดหลาบจัดหนักปรับสูงสุด 5 พัน

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯกทม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดจับ-ปรับผู้ขับขี่ หรือจอดจยย.บนทางเท้า โดยมี นายจิรวัฒน์ แพงมา ผอ.สำนักเทศกิจ พร้อมด้วย ผู้บริหารเขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ ตำรวจ สน.ในพื้นที่ และผู้เกี่ยวข้องร่วมการตรวจเยี่ยม ณ จุดจับ-ปรับฯ บริเวณปากซอยลาดพร้าว 79 ถนนลาดพร้าว สำนักงานเขตวังทองหลาง

ทั้งนี้ นายสกลธีและคณะเดินทางไปยังสำนักงานเขตวังทองหลาง เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติการสืบค้นหาข้อมูลเจ้าของผู้ครอบครองรถที่ฝ่าฝืนขับขี่หรือจอดรถบนทางเท้าของฝ่ายเทศกิจที่ได้ลงนามใช้ข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก

นายสกลธี กล่าวว่า ที่ผ่านมากทม.กำหนดอัตราโทษปรับ 1,000 บาท กับผู้ขับขี่บนทางเท้า ถือว่าเป็นโทษที่ค่อนข้างสูง แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนอีกจำนวนมาก จึงมีนโยบายที่จะเพิ่มโทษปรับเป็น 2,000 บาท โดยเริ่มจับปรับในอัตราใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 62 เป็นต้นไป โดยเมื่อช่วงประมาณ 1- 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขตกวดขันจับ-ปรับผู้กระทำความผิด และให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนอัตราโทษจับปรับใหม่ให้ผู้กระทำผิดทราบด้วย

นอกจากนี้ ในการประชุมผู้บริหารกทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจและหัวหน้าฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขตเมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้มอบหมายสำนักเทศกิจประสานงานกับสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล จัดทำแอปพลิเคชั่นสำหรับตรวจสอบประวัติผู้กระทำความผิดหากพบว่า เป็นผู้กระทำผิดซ้ำซากให้ดำเนินการลงโทษสูงสุด 5,000 บาท โดยไม่ให้มีการลดหย่อนอย่างเด็ดขาด

สำหรับ การจับปรับผู้กระทำผิดกรณีการขับขี่บนทางเท้าระหว่างวันที่ 9 ก.ค. 61 – 21 ก.ค. 62 ที่ผ่านมา รวมทุกเขตจับกุมผู้กระทำผิดได้ 20,659 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 4,197 ราย ดำเนินคดี 14,678 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 1,784 ราย ปรับเป็นเงิน 11,179,500 บาท

ด้าน นายจิรวัฒน์ แพงมา ผอ.สำนักเทศกิจ กล่าวว่า ผลการกวดขันจับกุมในวันแรกทั่วกทม.ครึ่งวันเช้า มีผู้ฝ่าฝืนและปรับในอัตรา 2,000 บาท รวม 18 ราย มีบางรายก็มีความไม่พอใจ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งข้อกฎหมายและชี้แจงให้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวที่ผิดกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยในจุดที่วังทองหลวง ถนนลาดพร้าว ตรวจจับได้มากสุดถึง 5 ราย

ผอ.สำนักเทศกิจ กล่าวว่า จะมีการแจ้งประชาสัมพันธ์และบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยกรณีที่ผู้กระทำความผิดมีเงินไม่พอจ่ายค่าปรับ จะมีการยึดรถซึ่งถือว่าเป็นสิ่งของที่ใช้ในการกระทำผิด เจ้าหน้าที่เทศกิจมีอำนาจตามกฎหมายในการนำรถไปเก็บไว้ที่สำนักงานเขต โดยเมื่อมาชำระค่าปรับครบตามจำนวนก็จะคืนรถให้แก่ผู้กระทำความผิดต่อไป