ไม่พอใจรอคิวรักษานาน ญาติคนไข้ทุบกระจกเข้าไปด่าและข่มขู่ จนท.โรงพยาบาลแม่สอด

เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินโรงพยายาลแม่สอดท้อใจ คนไข้กว่า 100 คน รักษาไม่ทันใจญาติผู้ป่วยเดือดทุบกระจกประตูเข้าไปข่มขู่และด่ากราด

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่สอดได้เผยแพร่เหตุการณ์คนไข้ทุบกระจกประตูเข้ามาด่ากราดพร้อมกับข่มขู่เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาล เหตุเพราะรอคิวรักษานานจากคนไข้ที่มีเป็นจำนวนมากจากสาเหตุของโรคไข้ชิคุนกุนย่าและไข้เลือดออกกำลังระบาดคู่กัน 

ขณะที่ห้องฉุกเฉินเล็กๆ ต้องรองรับคนไข้ 100 กว่าคนทั้งหมด บุคลากรยังเท่าเดิมแต่ทำงานกันอย่างหนัก คนไข้บางคนทนรอไม่ไหวจึงโวยวายขึ้นและขอแซงคิว เจ้าหน้าที่พยายามให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างยุติธรรม แต่ก็มีการข่มขู่ สุดท้ายจำต้องให้แซงคิวเพื่อระงับความวุ่นวาย โดยขั้นตอนของการรักษาห้องฉุกเฉินตรวจตามระดับความเร่งด่วน คนที่ได้สีเขียว (ไม่ด่วน) ต้องรอคนไข้ที่หนักกว่าหมดก่อน ซึ่งไม่เคยหมด จึงต้องแบ่งกันออกมารีบตรวจเพื่อให้คนไข้สีเขียวได้ตรวจบ้าง ส่วนในสีเดียวกันเรียงตามคิวก่อนหลัง

เวลาเที่ยงคืนเกิดเหตุฆ่าปาดคอหมู่ แพทย์เวรเมื่อคืนจึงลงมาช่วยกันตรวจให้เคสทุกเคสผ่านไปได้ แต่อัตรากำลังพยาบาลไม่สามารถเพิ่มได้ เหตุการณ์จึงยิ่งตึงเครียด ซึ่งจังหวะนั้นญาติคนไข้คนหนึ่งไม่พอใจ คนไข้มีโรคประจำตัวเดิมและครั้งนี้มีอาการหลายวัน จึงมาตรวจดึก พอรอนาน ก็ไม่พอใจ พอดีอาการเกิดเปลี่ยนแปลงขึ้นจึงบันดาลโทสะ ทุบประตูกระจกของโรงพยาบาลแตกและเข้ามาด่ากราดเจ้าหน้าที่ภายในห้อง

อาการคนไข้อื่นๆ ก็ตึงเครียด เจ้าหน้าที่ในเวรก็อ่อนล้าเต็มทน ได้แต่พยายามทำงานของตนไป และประคับประคองคนไข้กับเพื่อนร่วมงานให้ผ่านพ้น เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเสียกำลังใจ อ่อนล้าอ่อนแรงเต็มที จนเช้าวันนี้ยังไม่มีคำขอโทษใดๆ คำด่าและการประทุษร้ายยังวนเวียนอยู่รอบตัว รู้สึกว่าปัจจุบันผู้คนเปลี่ยนไป บางสิ่งไม่ถูกใจ แต่อาจถูกหลักการ สิ่งที่ควรทำคือสอบถาม หากเห็นว่าไม่ถูกควรร้องเรียนเป็นระบบเพื่อช่วยกันสร้างสังคมที่ดีกว่า โรงพยาบาลเป็นของประชาชนทุกคน การรักษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่เมื่อมีสิทธิย่อมต้องมีหน้าที่ตามมา เราใช้บริการย่อมต้องช่วยกันรักษา ช่วยกันดูแลระบบนี้ให้แข็งแรงและอยู่รอดไปด้วยกัน