ปุ๊กกี้-สามีอ้างรับยามาขายครั้งแรก ไม่ได้ผลิต ยืนยันไม่มีดาราเอี่ยว

"ปุ๊กกี้" สารภาพรับยามาขายให้ต่างชาติครั้งแรก ไม่ได้เป็นผู้ผลิต ยืนยันไม่มีดาราเกี่ยวข้อง ขณะที่ประวัติสามีพบเคยต้องโทษคดียาเสพติดเมื่อปี49

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า จากการสอบสวน น.ส.พริสซิลลา ปริศนา จิวเมลลี่ หรือ ปุ๊กกี้ อดีตนักร้องดัง และนายชลวิทย์ คีตะตระกูล สามี ซึ่งถูกจับกุมพร้อมยาเสพติดจำนวนมากนั้นพบว่า รับยาเสพติดมาจากเครือข่าย ที่โชคชัย 4 แล้วนำมาบรรจุก่อนที่จะจำหน่าย โดยยืนยันว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 นั้นไม่ได้เป็นผู้ที่ผลิตยาเสพติด จากการตรวจปัสสาวะของทั้ง 2 คนก็พบเป็นสีม่วง โดยหลังจากนี้จะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่โชคชัย 4 เพื่อขยายผล

อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำ ปุ๊กกี้ และสามี รับสารภาพว่า เป็นครั้งแรกที่รับยาและมาขายให้กับต่างชาติ และยอมรับที่ผ่านมาได้เสพยาเสพติดจริง

เบื้องต้นจากคำให้การของผู้ต้องหาพบว่า ไม่มีดาราหรือนักแสดงมาเกี่ยวข้อง

จากการตรวจสอบประวัติ นายชลวิทย์ สามีของปุ๊กกี้ พบว่า เคยต้องโทษคดียาเสพติดเมื่อปี 2549 ก่อนจะพ้นโทษออกมากระทำความผิดซ้ำอีก

ด้านนายบัญชา โทสมัย ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำสารเคมีที่ตรวจพบภายในบ้านพัก ย่านรามอินทราไปตรวจสอบ โดยเฉพาะ เบกกิ้งโซดา ที่พบมากถึง 4 กล่อง ถือว่าผิดปกติ เพราะ เบกกิ้งโซดา สามารถนำไปผสมกับยาเสพติดเพื่อเพิ่มปริมาณได้

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องขยายผลต่อ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไม่ได้ผลิตเอง เพราะไม่สอดคล้องกับหลักฐานที่พบ ตำรวจได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาชาวไต้หวันในข้อหา ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไว้ในครอบครองโดนไม่ได้รับอนุญาต ส่วน ปุ๊กกี้ และ สามี แจ้งข้อหา ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ โดยหลังจากนี้ ตำรวจจะทำการสอบสวนต่อตามอำนาจภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนที่จะไปฝากครั้งที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก