posttoday

ศาลให้ประกันเปรมชัยคดีสินบน อัยการขอสังคมลบอคติคุกไม่ได้มีไว้ขังคนจน

11 มิถุนายน 2562

ศาลตั้งวงเงินประกัน2แสนบาทห้ามเปรมชัยออกนอกประเทศก่อนได้รับอนุญาต รองโฆษกอัยการสูงสุดชี้ถือเป็นตัวอย่างทุกฐานะในสังคมไทยอยู่ภายใต้กฎหมายไม่เลือกปฏิบัติ

ศาลตั้งวงเงินประกัน2แสนบาทห้ามเปรมชัยออกนอกประเทศก่อนได้รับอนุญาต รองโฆษกอัยการสูงสุดชี้ถือเป็นตัวอย่างทุกฐานะในสังคมไทยอยู่ภายใต้กฎหมายไม่เลือกปฏิบัติ

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 อนุญาตให้ประกันตัว นายเปรมชัย กรรณสูต วงเงินประกัน 200,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศก่อนได้รับอนุญาต หลังมีคำพิพากษาในคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน มาตรา144 ให้จำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีติดสินบนเจ้าพนักงาน หลังถูกจับกุมขณะลักลอบล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

ทั้งนี้เมื่อได้รับการประกันตัวแล้ว นายเปรมชัยให้สัมภาษณ์ว่าคำพิพากษาท่านก็ตัดสินไปแล้ว เตรียมยื่นอุทธรณ์ตามสิทธิ์ ซึ่งตอนนี้ยังไม่พูดอะไรขอให้เข้าใจสถานการณ์ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามขณะที่นายเปรมชัยเดินบอกว่าเจ็บขา และเดินรองเท้าหลุด

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทรยงค์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ถือเป็นคดีตัวอย่างที่ยืนยันได้ว่ากฎหมายไม่ได้เลือกปฏิบัติ เจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ปฏิบัติงานตามกฏหมายจะต้องปฏิบัติงานโดยยึดหลักนิติธรรม ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะมีฐานะทางสังคมเช่นไร ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน มีสิทธิ และเสมอภาคเท่าเทียมกันสังคมไทยคงได้บทเรียนอีกบทหนึ่งที่ลบคำกล่าวหากระบวนการยุติธรรมว่าเลือกปฏิบัติระหว่างฐานะจน รวย ขอให้ช่วยกันตรวจสอบ สอดส่อง ดูแล ชี้เบาะแสแจ้งหลักฐานให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์และมีประสิทธิภาพจริงดังเช่นคดีนี้มาช่วยกันรักษาหลักนิติธรรมให้สังคมไทยมีมาตรฐานเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ดี นายเปรมชัย ยังมีสิทธิตามกฏหมายสามารถยื่นอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์แผนกคดีประพฤติมิชอบได้

ขณะที่ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกอัยการฯ ได้กล่าวถึงขั้นตอนทางคดีนี้ ว่า เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนจะยื่นขอคัดถ่ายคำพิพากษาฉบับเต็มแล้วรวบรวมรายละเอียดพร้อมสำนวนทั้งหมด เสนอต่ออัยการศาลสูงภาค 7 เป็นผู้พิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ในประเด็นใด รวมทั้งกรณีที่ศาลยกฟ้องจำเลย 1 คนด้วย โดยมีระยะเวลาพิจารณายื่นอุทธรณ์ภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา

ทั้งนี้ หลักการพิจารณาอุทธรณ์คดีหรือไม่ อัยการศาลสูง ก็จะดูว่าโทษที่ศาลชั้นต้นสั่งจำคุกนายเปรมชัย 1 ปีไม่รอลงอาญานั้นเหมาะสมแล้วหรือไม่ ถ้าเหมาะสมแล้วก็อาจไม่ยื่นอุทธรณ์ในส่วนนี้ แต่หากอัยการศาลสูงเห็นว่าโทษที่ศาลพิพากษายังเบาไปก็อาจจะขอยื่นให้ศาลลงโทษสถานหนักมากกว่านี้ ส่วนกรณีนายยงค์ที่ศาลยกฟ้องก็เช่นเดียวกัน อัยการศาลสูงจะพิจารณาดูว่ามีเหตุอย่างไรบ้าง

อย่างไรก็ดีในส่วนของจำเลย หากนายเปรมชัยยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของอัยการตามกฎหมายที่จะต้องแก้อุทธรณ์ ต่อไป