แพทย์แนะดูแลช่องปากตั้งแต่ซี่แรก! หลังเด็ก 3 ขวบ ฟันน้ำนมผุทั้งปากทำติดเชื้อรุนแรงจนหนองขึ้นตาหวิดบอด

นายแพทย์ อารักษ์ วงศ์วรชาติ แนะพ่อแม่หมั่นดูแลสุขภาพช่องปากลูกตั้งแต่ฟันน้ำนม หลังเด็ก 3 ขวบ ติดอมยิ้มไม่ชอบแปรงฟันทำฟันผุทั้งปากจนเชื้อโรคขึ้นตาหวิดบอด

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. นายแพทย์ อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ให้ข้อมูลภาพพร้อมกับข้อความอุทาหรณ์ผู้ปกครองผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Arak Wongworachat” หลังพบเคสผู้ป่วยเด็กที่มีอาการฟันน้ำนมผุทั้งปาก เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการเป็นไข้และบริเวณดวงตาข้างมีอาการปวดตา นอกจากนี้ตายังมีลักษณะบวมเป่ง ซึ่งเกิดจากอาการติดเชื้อรุนแรงจนหนองขึ้นตาหวิดบอดสาเหตุมาจากฟันผุ

นายแพทย์ อารักษ์ ได้โพสต์ข้อความเตือนผู้ปกครองถึงเรื่องฟันผุอย่ามองข้ามโดยระบุว่า “ญาติพาผู้ป่วยเด็กชายอายุ 3 ขวบเศษมารักษา เนื่องจากมีอาการฟันผุ มีอาการเป็นไข้ ปวดตาซ้ายที่มีลักษณะบวมเป่ง จากการสอบถามญาติ ทราบว่า ชอบซื้ออมยิ้มให้เด็กกิน เพราะจะได้ไม่ร้องกวน ประกอบกับเด็กไม่ค่อยแปรงฟันและไม่ได้เข้าโรงเรียนอนุบาลหรือศูนย์เด็กเล็ก เมื่อเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ใบหน้า พบว่ามีหนองในไซนัสและเบ้าตา รากฟันบน จึงต้องผ่าตัดถอนฟันที่ผุทั้งปากพร้อมระบายหนองออก ก่อนให้ยาต้านเชื้อทางเส้นเลือดอยู่หลายวัน ถ้ามารักษาช้ากว่านี้เด็กอาจตาบอด จึงอยากเตือนผู้ปกครองให้หมั่นใส่ใจลูกหลานให้มากขึ้น”

ทั้งนี้สุขภาพพลานามัยในช่องปากเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะเด็กวัยเล็ก ซึ่งการแปรงฟันนอกจากควรแปรงฟัน 2 เวลา คือ ก่อนหรือหลังอาบน้ำเช้าและเย็นแล้วนั้น ผู้ปกครองยังควรดูแลบุตรหลานด้วยการสร้างความคุ้นเคยให้เด็กตั้งแต่แรกเกิด โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุก เช็ดทำความสะอาดสันเหงือกทุกวัน, แปรงฟันให้เด็กตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น, ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ช่วยลดโอกาสฟันผุได้ถึงร้อยละ 15-30, เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม หน้าตัดเรียบ หัวเล็กมีด้ามจับใหญ่จับถนัดมือ, ให้เด็กอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน หรือนอนบนตัก เพื่อให้เด็กอยู่นิ่ง ทำให้มองเห็นและแปรงฟันได้ง่ายขึ้น, สร้างบรรยากาศในการแปรงฟัน เช่น เล่านิทาน ร้องเพลง หรือใช้แปรงมีสีสันมีตัวการ์ตูน