"เต้ครับหยุดการกระทำ-มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย" ความในใจจาก "ศิษย์ร่วมสถาบัน"

เปิดใจรุ่นพี่และเพื่อนพระจอมเกล้าพระนครเหนือของ มงคลกิตติ์-เผยขี้โม้ เตือนหยุดการกระทำแบบนี้

จากกรณี มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ไลฟ์เฟซบุ๊กบอกเล่าเรื่องราวในอดีต โดยช่วงหนึ่งเล่าถึงวีรกรรมประสบการณ์ทะเลาะวิวาทสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) จนทำให้เวลาต่อมาศิษย์เก่าและปัจจุบันของสถาบันไม่พอใจอย่างมาก จนวันนี้ (21 พ.ค.) หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เดินทางไปขอขมาอาจารย์และศิษย์ร่วมสถาบัน แต่ถึงอย่างไรก็ยังถูกโห่ไล่ขณะเดินทางกลับ

สำหรับเรื่องนี้ รุจโรจน์ อ่อนสอาด อดีตนักศึกษาแผนกช่างก่อสร้าง ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของมงคลกิตติ์ เปิดเผยความรู้สึกว่า หลังเกิดเรื่องศิษย์เก่าและปัจจุบันต่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนมองว่าพระจอมเกล้าพระนครเหนือเป็นสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งที่ชื่อเสียง แต่กลับถูกนำมาพาดพิงกับปัญหาทะเลาะเบาะแว้งของบางคนซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูด "ผมขอประณามการกระทำของมงคลกิตติ์"

ทั้งนี้มองว่าการขอขมาครั้งนี้ไม่แน่ใจมาจากความตั้งใจจริงๆหรือไม่ เพราะมองว่าเหมือนเกิดจากถูกกระแสกดดัน

ส่วนการที่ มงคลกิตติ์ ตอนนี้ได้เป็น ส.ส.แล้ว รุ่นพี่ร่วมสถาบันฯ ระบุว่า "ถ้าคุณจะเข้าไปเป็น ส.ส.แล้วปฏิบัติตัวอย่างไร ก็แล้วแต่ประชาชนคิดและมอง"

รุ่นพี่ร่วมสถาบันฯของ เต้ ทิ้งท้ายว่า "เต้ครับ มงคลกิตติ์ คุณหยุดการกระทำต่างๆที่คุณกำลังทำอยู่ พวกศิษย์เก่าหรือศิษย์ปัจจุบันเขาไม่พอใจมากๆ กับเรื่องที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้ คุณจะส่วนตัวอะไรก็เรื่องของคุณ แต่สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมด พวกศิษย์เก่าต่างๆเขารู้ว่ามันไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาเลย"

ขณะที่ เพื่อนร่วมรุ่นของมงคลกิตติ์ อธิบายถึงบรรยากาศของสถาบันฯในอดีต ว่า เรื่องราวในคลิปมีจริงอยู่เพียง 1เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และเป็นเรื่องธรรมดาที่วัยรุ่นชายชกต่อยกันเหมือนทุกโรงเรียน ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าศิษย์ร่วมสถาบันทุกรุ่นคงไม่พอใจ เพราะชื่อเสียงของพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นสิ่งที่ทุกคนสร้างกันมานาน

ส่วนเรื่องราวของเต้ในอดีต เพื่อนร่วมรุ่น เปิดเผยว่า ตอนนั้นทั้งรุ่นมีประมาณ 200 คน แผนกวิชาละ 20-30 คน ทุกคนรู้จักกันหมด ส่วนมงคลกิตติ์ เป็นเด็กเรียนธรรมดา "ตอนนั้นก็ไม่มีใครเอาเขาเลย เพราะเขาขี้โม้ และแต่ละสาขาเขาก็จะมีหัวๆ ซึ่งเต้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวกนั้นเลย

อย่างไรก็ตาม เพื่อนร่วมรุ่นของ ส.ส.ใหม่ ก็ยินดีกับหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ได้เข้าไปทำงานในรัฐสภาและก็ขอให้ทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด แต่มองว่าไม่ควรนำสถาบันฯ เข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อสร้างแบรนด์ตัวเองขึ้นมา ซึ่งมันไม่ถูกต้อง