รู้จัก "นอฟ จิ้งจกเอแบค" หนุ่มนศ.ไอเดียเจ๋ง ผุดบริการจับ "สัตว์ชวนขนลุก" ตามหอพัก

เมื่อ "จิ้งจก ตุ๊กแก แมลงสาบ" กลายเป็นเรื่องสยองของชาวหอเมืองกรุง นักศึกษาหนุ่มปี3จึงปิ๊งไอเดียรับจ้างให้บริการจับสัตว์ตามหอพัก ก่อนนำไปปล่อยในธรรมชาติ หลังเปิดให้บริการเพียง1สัปดาห์ ปรากฏเสียงตอบรับกระฉูด! 

************************

โดย…รัชพล ธนศุทธิสกุล

รับจ้างจับจิ้งจก ตุ๊กแก แมงมุม ฯลฯ กลายเป็นธุรกิจที่ฮือฮาของสังคมเด็กหอ หลังนักศึกษาพากันแชร์โพสต์บริการจับสัตว์ตามหอพักของ “นอฟ-ณัฐเกียรติ สุรพิพิธ” นักศึกษาหนุ่มปี 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ

‘จิ้งจกเอแบค’ สนนราคาให้บริการตั้งแต่ 20-60 บาท ในการจับแมงมุม แมลงสาบ จิ้งจก และตุ๊กแก ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแน่นขนัดเพียง 1 สัปดาห์ที่เปิดให้บริการเท่านั้น

อะไรที่เป็นต้นเหตุก่อให้เกิดธุรกิจจับสัตว์ตามหอพัก จุดเริ่มไอเดียมาจากเรื่องใด โพสต์ทูเดย์พาไปทำความรู้จักกับเบื้องหลังและพร้อมกับเปิดเผยรายละเอียดของนักจับสัตว์หอพักที่มาแรงในที่นี้เป็นที่แรกและที่เดียว

จากความชอบนำพาไปสู่ความรัก “สัตว์”

“เป็นคนรักสัตว์ตั้งแต่เด็กๆ เราไม่ได้มองว่าเขาเป็นสัตว์ที่น่าเกลียด เรามองว่าเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ไม่มีพิษมีภัย แต่คนอื่นเขากลัว เราไม่กลัวก็เลยอาสาไปจับให้” นอฟ ณัฐเกียรติ สุรพิพิธ กล่าวถึงจุดเริ่มธุรกิจบริการจับสัตว์ตามหอพักอันเกิดจากความรักความชอบ

โดยบริการจับสัตว์ตามหอพักของหนุ่มนักศึกษาวัย 22 ปี อาทิ จิ้งจก แมลงสาบ แมงมุม กระทั่งตุ๊กแก มีชนวนเหตุมาจากการดูภาพยนตร์ที่ตัวพระเอกมีคู่หูเป็นสุนัขจึงซื้อสุนัขมาหนึ่งตัวเพื่อให้เป็นดูโอ้เช่นในเรื่อง ก่อนที่หลังจากนั้นจะขยายกลายเป็นความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์แบบไม่รู้ตัว ซึ่งในปัจจุบันห้องส่วนตัวที่บ้านในจังหวัดชลบุรี พื้นที่กว่าครึ่ง 24 ตารางเมตร ในมุมต่างๆ ของห้องแทบจะเป็นพื้นที่ของคู่หูกว่านับ 10 สายพันธุ์

“ที่เลี้ยงอยู่ก็จะมีแมว 3 ตัว นก 1 ตัว กบ 2 ตัว แม่น 7 ตัว กระต่าย 1 ตัว และงู 1 ตัว คือมันค่อยๆ กลายเป็นรักสัตว์ทุกชนิด ทีนี้ด้วยความที่บ้านทำธุรกิจก๊าซหุงต้มมันก็จะมีซอกมีหลืบตรงพื้นที่เก็บถังแก๊สก็มักจะมีน้องจิ้งจก น้องแมงมุม ตุ๊กแก เราก็จะคอยจับเขาออกเพื่อเวลาขนไปแล้วไม่ทำให้เขาได้รับอันตราย เพราะบางทีคนงานเจอพอกลัวก็อาจจะตีตาย หลังจากนั้นพอขึ้นมาเรียนตั้งแต่ปี1 เราก็จะได้ยินเพื่อนๆ บอกว่าที่ห้องมีจิ้งจกบ้าง แมลงสาบบ้าง แมงมุมบ้าง เราก็อาสาไปจับให้เพื่อนโดยปริยาย”

แลกกับน้ำมิตรเพื่อนฝูงค่าธรรมเนียมจับคิดฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี กระทั่งขึ้นเรียนชั้นปีที่ 3 หลังจากช่วยเพื่อนรุ่นน้องจับจิ้งจกและถูกถ่ายคลิปโพสต์ลงโลกออนไลน์เล่นๆ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาทำให้มีเป็นที่ฮือฮาและมีผู้ติดต่อเข้ามาขอใช้บริการจริงๆ

“เขาระบุข้อความขำๆ ว่าเรารับจับจิ้งจก แต่พอลงแล้วมีเพื่อนของเขาติดต่อเข้ามา ก็ได้ไอเดีย น่าสนใจดีมีคนเขาสนใจจริงๆ ก็เลยลองทำดู รุ่งขึ้นก็สร้างอินสตาแกรมขึ้นและก็รับจับจิ้งจก แมลงสาบ แมงมุม ตุ๊กแก”

“จิ้งจกเอแบค” ช่วยคนกลัว-คืนสัตว์สู่ธรรมชาติ

จากบริการช่วยเหลือกำจัดความกลัวให้เหล่าพ้องเพื่อนนำมาสู่ธุรกิจบริการจับสัตว์ตามหอพักในชื่อ “จิ้งจกเอแบค” สนนราคาในการจับตั้งแต่ 20 บาท ได้แก่ แมลงสาบและแมงมุม ขณะที่จิ้งจกราคาในการจับอยู่ที่ 30 บาท ส่วนตุ๊กแกเรทราคาอยู่ที่ 60 บาท ในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในรอบ 1 อาทิตย์ตั้งแต่ที่เปิดให้บริการมามีลูกค้าสนใจนับสิบๆ รายเข้าด้วยกันแล้ว

“เวลายอดนิยมเลยที่ลูกค้าจะโทรเรียกไปจับอยู่ในช่วงหัวค่ำและหลังเที่ยงคืน เพราะสัตว์พวกนี้เขาจะออกหากินตามเวลาของแมลง เขาก็จะออกมาให้เห็นในช่วงดังกล่าว ช่วงเช้าๆ จะน้อยมากที่จะพบ ก็ยิ่งทำให้เราทำธุรกิจแบบไม่เสียการเรียนง่ายขึ้น” เขาบอก

ขณะที่ในส่วนขั้นตอนการจับก็ไม่ยากเช่นเดียวกัน จิ้งจกและแมลงสาบใช้มือเปล่าๆ จับเลย แต่ถ้าเป็นแมงมุมก็จะมีถุงมือ ส่วนตุ๊กแกจะใช้อุปกรณ์จับซึ่งเป็นเครื่องมือประดิษฐ์เองจากท่อพีวีซีที่ร้อยด้วยเชือกเอาไว้สำหรับคล้องคอ

“ตกแล้วเคสๆ หนึ่งเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น เพราะเวลาที่ลูกค้าเรียกจะเป็นตอนที่เขาพบเห็น ถ้าไปถึงแล้วเจอก็จับได้ทันที แต่ถ้าไปแล้วเขาเคลื่อนย้ายที่เราก็จะถามว่าพิกัดล่าสุดที่เห็นอยู่บริเวณไหน อย่างเห็นอยู่หลังม่าน ซอกตู้ ข้างกล่องใส่ของ เราก็ไปดู ซึ่งส่วนใหญ่ก็พบตลอดตามสัญชาตญาณเขาที่ไม่ค่อยจะขยับไปไหน เราก็ไม่ต้องขยับของอะไรมาก การจับไม่ยากไม่ได้ถึงขั้นดมกลิ่นตามแบบพรานล่าสัตว์ในหนังตามล่ากันเป็นวันๆ”

และเมื่อภารกิจปฏิบัติการจับสัตว์ได้สำเร็จด้วยความละมุนละม่อม ณัฐเกียรติจะใช้ขวดที่ดัดแปลงสภาพสำหรับลำเลียงสัตว์ต่างๆ เพื่อนำไปปล่อยตามระบบนิเวศหรือนำกลับไปเลี้ยงที่ห้องพัก

“เพราะสัตว์ทุกชีวิตก็มีชีวิตและเขาก็อยากใช้ชีวิตของเขาเหมือนกัน เราก็เช่นกัน ฉะนั้นทุกชีวิตมีคุณค่า เราได้ไปช่วยคนที่เขากลัวและไปจับมาให้ เราก็ได้ช่วยชีวิตให้ออกไปอยู่ในที่ๆ เหมาะสมกับเขามากที่เขาจะไม่โดนคนทำร้าย เพราะบางคนกลัวมากๆ ก็จะเอาสเปรย์ฆ่าแมลงไปฉีดใส่ เขาก็ตาย ก็ให้เรียกเราไปจับดีกว่า เราจะได้เหมือนทำบุญไปด้วยให้เขาไปอยู่ที่ๆ เขาเหมาะสม”

ยึดหลัก ‘ปลอดภัย’ ยืนหนึ่งอาชีพดาวรุ่ง

อย่างไรก็ตามขอบเขตของการให้บริการ “จิ้งจกเอแบค” ณ ตอนนี้เปิดรับบริการในพื้นที่รอบรั้วมหาวิทยาลัยเอแบค วิทยาเขตสุวรรณภูมิ เท่านั้น ยังไม่ได้มีการกระจายสาขา แม้ว่าจะมีเพื่อนนักศึกษาติดต่อและรวมไปถึงเสียงเรียกร้องของคนที่ต้องการให้ไปช่วยจับสัตว์ต่างๆ ที่ทำให้หวาดกลัวในห้องพักส่วนตัวเข้ามาทุกทิศทาง

“เพื่อนๆ มหาวิทยาลัยอื่นก็มีติดต่อเข้ามาทั้งจากทางภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ เพราะมีสัตว์จำพวกแมลงและแมงเยอะ ในตัวกรุงเทพฯ เองก็มีเข้ามา ตอนนี้ก็กำลังพูดคุยกันอย่างรอบครอบ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ที่กลัวสัตว์พวกนี้เป็นผู้หญิง แม้ว่าตอนจับแล้วลูกค้าจะรีบจ่ายเงินและให้เรารีบๆ ไป เนื่องจากเราถือสัตว์ที่เขากลัว แต่การเข้าไปอยู่ในพื้นที่ห้องส่วนตัว ก็อาจจะเกิดมีมิจฉาชีพแฝงตัว”

การขยายสาขาของโมเดลธุรกิจจิ้งจกเอแบคจึงอยู่ในขั้นการพูดคุยถึง ‘กฎเหล็ก’ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดที่ต้องคำนึง ซึ่งระเบียบการปฏิบัติการ ณ ตอนนี้ ในการให้บริการนักล่าสัตว์หอพัก ได้แก่

1.ผู้รับบริการต้องมีเพื่อนอยู่ด้วยในระหว่างทำการจับ

2.ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในทุกๆ ทางนอกจากให้บริการจับสัตว์

3.เวลาจับต้องจับด้วยความปลอดภัยไม่ทำให้สัตว์ได้รับอันตรายหรือเสียชีวิต

4.รักสัตว์และมีความรู้เรื่องระบบนิเวศในการนำสัตว์คืนสู่ธรรมชาติ

“ตอนนี้ก็คุยๆ กันอยู่เพื่อให้ครอบคลุมตรงตามวัตถุประสงค์ที่อยากจะช่วยเหลือสัตว์ให้เขาปลอดภัยและมีชีวิตต่อ เพราะเราคนเดียวช่วยทั้งหมดไม่ไหว มีน้องๆ อีกหลายชีวิตที่อาจจะได้ใช้ชีวิตของเขาอย่างปลอดภัย ก็ต้องคนละไม้คนละมือ แต่ว่าการให้บริการที่ปลอดภัยก็สำคัญ ดังนั้นเราไม่ได้คาดหวังเรื่องของกำไลเป็นที่ตั้ง มันเกิดจากความรักของเราที่อยากช่วยเหลือ ตอนนี้จึงต้องคัดกรองคนที่อยากทำจริงๆ แม้ว่าเสียงเรียกร้องให้ไปช่วยจับจะมาก และในการตลาดสามารถเติบโตได้ถ้ามีทุนและมีความสามารถในการให้บริการสู่พื้นที่”